นาย ก. ครอบครองที่ดิน สค.1 จำนวน 80 ไร่ ต่อมาปี 2525 ได้แบ่งจดทะเบียนเป็น นส.3ก จำนวน 30 ไร่ และขายให้นาง ข. ในปี 2526 ปี 2540 บุตรนายก.ได้นำสค.1 จำนวน 50 ไร่ ยื่นออกโฉนดที่ดิน โดยนาง ข. ไม่ได้ชี้จุดรางวัดที่ดิน ต่อมาปี 2549 ข้าพเจ้าได้ซื้อที่ นส.3ก 30 ไร่ เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง โดยยังไม่ได้เข้าดำเนินการใดๆ ในที่ดิน เนื่องจากนางข. ได้ให้ผู้อื่นเช่าทำนา/ไร่ ก่อน ต่อมาปี 2554 ได้เข้าไปดำเนินการเอง และยื่นขอออกโฉนดที่ดิน เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าไปรางวัดที่ดินปรากฎว่า บุตรของนาย ก. ได้ทำนา/ไร่ รุกล้ำที่ดินเข้ามาประมาณ 58 เมตร โดยบุตรนาย ก. ก็ทราบมาตลอดว่าหลักหมุดอยู่จุดใด แต่ได้มีการนำหลักหมุด (ไม่ใช่หลักหมุดของกรมที่ดิน) มาฝั่งไว้ตามระยะที่ตนเองรุกล้ำเข้ามา ในวันที่ทำการรางวัดที่ดิน บุตรนาย ก. แจ้งจะไม่เซ็นยินยอมการรางวัดที่ดินดังกล่าวให้ และจะทำการฟ้องร้องเอาที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองปรปักษ์ เนื่องจากได้ทำนา/ไร่ มาเป็นระยะเวลา 20-30 ปี แล้ว และแจ้งหากข้าพเจ้าไม่ยินยอมแลกเปลี่ยนที่ดิน (ที่ดินเป็นป่าและดินเค็ม) จะไม่ยอมให้ผ่านทางเข้าออก และถ้าอยากให้บุตรนาย ก. ออกจากพื้นที่รุกล้ำให้ฟ้องร้องขับไล่บุตรนาย ก. ออกจากพื้นที่รุกล้ำเอง ข้าพเจ้าขอสอบถามดังนี้
1) การคัดค้านการรางวัดที่ดินบุตรนาย ก. สามารถทำได้หรือไม่ แล้วใช้เหตุผลใดในการขอคัดค้าน
2) การคัดค้านการรางวัดที่ดิน ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ จึงจะออกโฉนดได้
3) บุตรนาย ก. สามารถฟ้องครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่ ถ้าหากได้ ข้าพเจ้าจะต้องเสียค่าทนายในการต่อสู้คดีประมาณเท่าไหร่ และข้าพเจ้ามีสิทธิ์ชนะคดีหรือไม่
4) การขับไล่บุคคลที่รุกล้ำที่ดินออกจากพื้นที่ จำเป็นจะต้องฟ้องศาลอย่างเดียวใช่หรือไม่ (กรณีไม่สามารถประนีประนอมยอมความ)
1. ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับแนวเขตเขาก็ย่อมมีสิทธิคัดค้านได้ ส่วนคุณก็ต้องไปฟ้องเขาเพื่อไม่ให้เขาคัดค้าน
2. ถ้ายังไม่ยุติ การคัดค้านก็คาอยู่อย่างนั้น
3. จะไปรอให้เขาฟ้องครอบครองปรปักษ์ทำไมล่ะ เมื่อที่ดินเป็นของคุณ มีคนมารุกล้ำ คุณก็ต้องรีบฟ้องเสียก่อนที่จะครบ ๑๐ ปีนับแต่วันที่คุณซื้อมา
4. ใช่ ขืนอยู่ ๆ เอาปืนไปยิงไล่ ก็ติดคุกตายเปล่า