เกี่ยวกับปัญหารังวัดสอบเขตที่ดิน ครับ
เนื่องจากหลักเขตที่ดินเดิมสร้างโฉนดราวพ.ศ.2519 สองหลักเขตมีพิกัดเป็นเส้นตรง มีระยะห่างกันประมาณ 50 เมตร ใช้แบ่งแยกที่ดินสองแปลงข้างเคียงกันทางตะวันออกแตะวันตก ปรากฏว่า หลักเขตหมายเลขที่ 1 ถูกทำลายแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนท่อนบนที่หัก ออกไปทางทิศตะวันออก ของท่อนฐาน ประมาณ สี่ เมตร และพบว่าหลักเขตหมายเลขที่ 2 ที่อยู่ทางทิศใต้ ได้สูญหายไป ดังนั้นแนวเขตแบ่งแยกที่ดินของทั้งสองแปลงจึงปรากฎเป็นสองเส้น โดยพิจารณาจากหลักเขตที่ 1
ต่อมาเจ้าของที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวได้ยื่นคำขอรังวัดสอบเขต ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 69 ทวิ ซึ่งก็ยังไม่แล้วเสร็จทั้งสองแปลง มีการเลื่อนการนำรังวัดอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเจ้าของที่ดินแปลงตะวันออก รังวัดเสร็จ จึงนัดมาไกล่เกลี่ยคำคัดค้านรังวัดของเจ้าของที่ดินแปลงตะวันออก ที่สำนักงานที่ดินก็ปรากฏผลว่าเลื่อนอีก เพราะ เจ้าของที่ดินทั้งสองแปลงแจ้งว่าต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าใครครอบครองแท้จริงในที่ดินพิพาท เพราะที่ดินแปลงทางด้านตะวันออกยังคงมีหลักเขตที่ดินเดิมอีกหลายหลักให้โยงยึด
ดังที่เรียนมา จึงขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ครับว่า เราจะขอให้ทางสำนักงานที่ดินตรวจสอบเฉพาะแนวเขตที่ดินที่มีปัญหา ว่า เดิมตั้งแต่ออกโฉนดนั้น หลักเขตทั้งสองอยู่ที่ไหนบนผืนดิน เพื่อทราบพิกัด ระวางแผนที่ อันนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการแก้ปัญหารังวัดต่อไปได้
หากไม่สามารถยื่นคำขอเป็น ท.ด.9 ได้ เพราะการขอตรวจสอบหลักเขตทั้งสองนั้นก็เท่ากับขอรังวัดสอบเขตใหม่ และ เพราะว่าการรังวัดสอบเขตก็เพื่อให้ทราบว่าเจ้าของที่ดินครอบครองแท้จริงเท่าใด เมื่อปรากฏว่า ใกล้เคียงกับระวางแผนที่อย่างไรก็ต้องถือจากการครอบครองจริง
เราควรทำอย่างไรครับ ทั้งนี้ชาวบ้านต้องการทราบความจริงว่า ตำแหน่งหลักเขตที่ดินเดิมที่ใช้แบ่งแยกที่ดินทั้งสองแปลงออกจากกันอยู่ที่ไหน ก็เพื่อแก้ปัญหารังวัด ด้วยต่างก็มีความเชื่อว่า ที่ดินที่พิพาทเป็นที่โฉนด ย่อมต้องมีหลักฐานชัดเจนแน่นอน ตามระวางแผนที่ที่มีมาแต่เดิมของสำนักงานที่ดิน และ ข้อเท็จจริง ก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าของที่ดินทั้งสอง แปลงใดแปลงหนึ่ง เป็นผู้เข้าครอบครองทำประโยชน์อย่างแท้จริงเลยในที่ดินพิพาท ขอบคุณครับ ที่แนะนำ
|