เรียนอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

ขอเรียนปรึกษาดังนี้ค่ะ

               นาง ก. นำโฉนดที่ดิน  1ไร่  60 ตร.วา ไปขอร้องให้นาง ข. ช่วยรับจำนอง เพื่อจะนำเงินไปสร้างบ้าน โดยนาง ก. ขาดส่งเงินทั้งต้น และดอกเบี้ยเกินเวลาที่ตกลงกันหลายเดือน  ที่ดินผืนดังกล่าวจึงตกเป็นของ นาง ข.

                ต่อมานาง ข. ได้นำที่ดินผืนดังกล่าว ขายต่อให้ นาง จ. โดยทำการโอนที่ดินและเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย  โดยเริ่มแรก ตั้งแต่ นาง จ.ได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน นาง ก. ได้ขอร้องนาง จ. ยับยั้งดำเนินการใดๆ ในที่ดินก่อน โดยอ้างว่า เนื่องจากที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินที่บิดามอบให้เป็นมรดก หากบิดารู้ว่าที่ดินหลุดจำนองอาจจะเสียใจ  ซึ่งนาง จ. ก็ได้ให้เวลา นาง ก.  ไปแจ้งให้บิดาทราบก่อนตามที่ขอร้อง  แต่มาทราบในภายหลังจากพี่สาว นาง ก. ว่าบิดานาง ก. รับทราบมาตั้งแต่ต้นแล้ว  ต่อมานาง ก. ได้ขอซื้อที่ดินจำนวน 1 งานคืน  ซึ่งนาง จ. ได้ปฏิเสธ เพราะต้องการซื้อที่ไว้ปลูกบ้าน

                 โดยนาง จ. ต้องการถมดินเพื่อปลูกบ้าน แต่หาหมุดตามโฉนดที่ดินไม่พบ จึงติดต่อให้ที่ดินมารังวัดที่  ซึ่งในวันที่เจ้าหน้าที่รังวัดมาทำการรังวัด นาง ก. มาร่วมชี้เขตแดน เนื่องนาง ก. มีที่ดินอยู่ติดต่อกัน  เจ้าหน้าที่รังวัดได้แจ้ง ต่อนาง ก. และนาง จ. ว่าที่ดินที่นาง จ.ให้มารังวัด มีโรงรถ และชายคาบ้านที่ปลูกใหม่ของนาง ก. ปลูกล้ำเข้ามาในที่ดินของ นาง จ. ประมาณ 60 ตร.วา โดย นาง ก.ปฏิเสธว่าตนไม่ทราบว่าได้ปลูกบ้านล้ำเข้ามาในที่ดินผืนผืนดังกล่าว ( แต่มีข้อสังเกตว่า นาง ก. ได้ติดต่อขอซื้อที่คืน จำนวน 1 งานตลอดมา  และหาก นาง ก. ไม่ทราบว่าตนได้ปลูกบ้านล้ำที่ดินเดิมจะขอซื้อที่ดินไปเพื่ออะไร )

                 หลังจากนั้นนาง จ. พยายามติดต่อ นาง ก.มาตลอด เพื่อหาแนวทางที่จะแก้ไขปัญหานี้  แต่ทุกครั้งนาง ก. จะบ่ายเบี่ยงทำฉุนเฉียวไม่ยอมคุยด้วย และให้สามีมาตกลงแทน  โดยสามีนาง ก. เสนอซื้อที่ดินคืนในราคาประเมิณของกรมที่ดิน  ในระหว่างการตกลงกัน  นาง จ. ได้รับจดหมายจากที่ดิน ว่านาง ก. ยื่นคัดค้านการรังวัดที่ดิน  และที่ดินได้นัดให้คู่กรณี ไปพบกันที่สำนักงานที่ดินพร้อมกัน  

                 ดังนั้น ตอนนี้ นาง จ. จึงต้องการได้ที่ดินคืนมา โดยไม่ต้องการขายคืนให้ นาง ก.

                 จึงเรียนปรึกษาอาจารย์ เพื่อขอคำแนะนำด้วยค่ะ เพื่อเตรียมพร้อม  ขอเรียนว่าไม่เคยคิดจะเป็นคดีความกับใคร  แต่ นาง ก. แสดงเจตนาบิดเบือน ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่ตนเองเป็นผู้ก่อขึ้นมา

                ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

การรับจำนองที่ดินไว้นั้น แม้ต่อมาลูกหนี้จะไม่ได้ชำระหนี้ตามกำหนด ก็ไม่ได้ทำให้ที่ดินตกเป็นของผู้รับจำนองโดยอัตโนมัติ เจ้าหนี้ยังคงต้องไปฟ้องเพื่อบังคับจำนองหรือเอาทรัพย์จำนองหลุด และดำเนินการโอนทางทะเบียนให้เรียบร้อย ที่ดินจึงจะตกเป็นของผู้รับจำนอง  ก่อนที่ที่ดินจะตำเป็นของผู้รับจำนอง ๆ ไม่มีสิทธิเอาที่ดินนั้นไปขายให้ใคร ใครไปซื้อเขาก็ไม่ได้สิทธิอะไรมา ทางที่ดีจึงควรตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามทะเบียนที่ดินให้แน่ว่าที่ดินนั้นเป็นของใคร ถ้าเป็นของเจ้าของเดิม คุณไปซื้อมาจากคนที่ไม่ได้เป็นเจ้านของก็อาจไม่ได้สิทธิอะไรเลยก็ได้