เรียน อาจารย์มีชัย
ผมมีปัญหาที่อยากรบกวนอาจารย์ช่วยวินิจฉัยและหาทางออกที่ดีให้ด้วยครับ
คือผมได้ไปซื้อที่ดินที่ต่างจังหวัดสองแปลงติดกัน ตอนซื้อก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร หลังจากซื้อแล้วผมต้องการรวมโฉนดสองแปลงให้เป็นแปลงเดียวจึงต้องทำการรางวัด เพราะที่ดินดังกล่าวทั้งสองแปลงไม่เคยรางวัดเลยและเคยเป็นที่ดินที่เจ้าของเดิมได้ไว้สมัยเป็น นส 3 แล้วเปลี่ยนเป็นโฉนดระยะหนึ่งแล้วมาขายให้กับผม ผมได้ทำการรางวัดโดยนัดเจ้าของที่ข้างเคียงทั้งสามด้านมารับทราบเพราะอีกด้านติดถนน มีสองรายมาดูและเซ้นชื่อเรียบร้อย แต่อีกหนึ่งรายไม่ได้มาดู เจ้าหน้าที่ก็ทำการออกจดหมายเรียกครั้งที่สองห่างจากรางวัดครั้งแรก 15 วันซึ่งเจ้าของที่ที่ติดกันนี้ก็ไม่ได้มาดูอีก พอใกล้จะครบ 30 วันหลังจากรางวัดครั้งแรกเจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ไม่ได้มานั้นทำการแจ้งไปยังเขตที่ดินว่าขออุทรณ์หรือแจ้งข้อพิพาทที่ดิน เพราะเขาไม่ได้มาดูแต่ขอใช้สิทธิ์ไม่ยินยอม ดังนั้นเจ้าหน้าทีรางวัดก็ไม่สามารถรวมโฉนดได้ จึงได้ส่งหนังสือมายังผมว่าเจ้าของที่ที่เขาไม่ได้มาเขาทำเรื่องขอพิพาทที่ดิน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่ดินบอกให้ผมทำเรื่องขอรางวัดใหม่ครั้งที่สองโดยผมต้องเป็นคนเสียเงินเอง
คำถาม
ถ้าเจ้าของที่ดินที่ข้างเคียงที่ได้แจ้งไปแล้วถ้าเขาไม่มาดูที่ดินขณะรางวัดและไม่เซ็นยินยอมในการรางวัดครั้งที่สามนี้ที่มีจดหมายไปถึง ผมควรทำอย่างไร ถ้าฟ้องศาลผมต้องเสียค่าใช้จ่ายเทาไร และมีโอกาสชนะหรือไม่ และอายุความของคดีที่ฟ้องนั้นกี่ปีจึงจะหมดอายุความ หรืออาจารย์มีข้อแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับปัญหานี้
หมายเหตุ เจ้าของที่ดินเป็นทนายความรู้กฏหมายดี ขณะที่ผมไม่ทราบเรื่องกฏหมายมาก่อนเลยต้องพยายามค้นคว้าด้วยตนเอง และนี่เป็นทางหนึ่งที่ผมจะได้รับคำตอบที่ดีจากอาจารย์ครับ
ขอให้อาจารย์มี่สุขภาพแข็งแรงครับ
ในประมวลกฎหมายที่ดินมีบัญญัติไว้ว่าในกรณีที่เจ้าของที่ดินข้างเคียงไม่มาระวังแนวเขตในการรังวัดจะเกิดผลอย่างไร และกฎหมายสันนิษฐานว่าอย่างไร ลองตรวจสอบดูเถอะ หรือจะไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่เขาดูก็น่าจะได้คำตอบ่ที่ละเอียดเพียงพอ ในขณะนี้ผู้ตอบอยู่่ต่างประเทศ ไม่สะดวกในการตรวจสอบรายละเอียดของกฎหมายได้