เรียน อาจารย์
เมื่อปี 2525 พ่อแม่ดิฉันได้ร่วมกันซื้อที่ดิน ภบท.๕ และได้ปลูกสวนปาล์มเต็มเนื้อที่ทั้ง ๒๐ ไร่(โดยประมาณ) จนถึงปัจจุบันสวนปาล์มอายุประมาณ ๒๙ ปี ต่อมา ปี ๒๕๔๘ ทางราชการได้ประกาศให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก.๔-๐๑ และถามความประสงค์พ่อกับแม่ว่าจะใส่ชื่อบุคคลใดเป็นผู้ถือสิทธิในที่ดินแปลงนี้ โดยขณะนั้นนายก (พี่ชายคนโต ในจำนวนบุตรจำนวน ๖ คน ) ซึ่งมีความจำเป็นจะซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน ต้องกู้เงินจากธนาคารฯและต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน พ่อแม่จึงเห็นพ้องกันว่าให้ใส่ชื่อนาย ก ในที่ดิน ส.ป.ก.๔-๐๑ แปลงดังกล่าว เพื่อไว้สำหรับค้ำประกันนเงินกู้ในอนาคต แต่จริงๆแล้วมิได้มีเจตนายกที่ดิน แปลงนี้ ให้แก่นายก แต่อย่างใด เป็นเพียงใส่ชื่อแทนพ่อแม่เท่านั้น โดยความจริงดังกล่าวนาย ก และบุตรทุกคนรวมถึงบุตรเขยและบุตรสะใภ้ต่างทราบดี ต่อมา แม่ดิฉันได้เสียชีวิตมาเมื่อปี 52 และนายก เสียชีวิตในเวลาใกล้เคียงกัน(ต้นปี53) ดังเห็นได้จากเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ นางข ภรรยานาย ก ได้ทำหนังสือในแบบคำขอรับมรดกสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวยกให้แก่นางสาว ค บุตรคนที่ห้าของพ่อแม่ ซึ่งตรงกับเจตนาเดิมของพ่อแม่ ทุกประการ แต่ต่อมานาง ข มาทำการคัดค้านการสละสิทธิใหม่อีกเมื่อต้นปี 54 อ้างความเป็นผู้จัดการมรดก หลังจากที่พ่อยินยอมให้เธอเป็นผู้จัดการมรดกของนายก ไปแล้ว ตอนนี้พ่อเครียดมาก ดิฉัน(บุตรคนที่ 2)และน้องๆไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี ต้องการถามอาจารย์..
1. จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้พ่อได้ทำตามเจตนาเดิม คือเอาที่สปก แปลงนี้ให้น้องสาวได้
2. ต้องดำเนินการที่ สปก.มีขั้นตอนอย่างไรได้บ้าง เพื่อที่แปลงดังกล่าวไม่ติดชื่อของพี่สะใภ้
3. กรณีที่แปลงดังกล่าวใช้ชื่อพี่ชาย แต่สิทธิและการได้ประโยชน์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น พ่อแม่ได้รับมาตลอด กรณีนี้พี่สะใภ้และลูกๆจะได้เป็นทายาทหรือไม่
4. ถ้าดำเนินการในขั้นของสปก.ไม่ผ่าน ต้องดำเนินคดี ใครควรเป็นโจทก์ พ่อหรือน้องสาวคะ
ขอบคุณคะ
เด้กสุราษฎร์