แม่ได้ไปกู้ร่วมซื้อบ้านกับหลาน (หลานมาขอร้องตอนนั้นแม่เย็บผ้าโหลก็อยากจะช่วยหลาน) แต่หลานไม่ส่ง บ้านเลยถูกยึด เป็นคดีความถูกฟ้องตั้งแต่ปี 42 และถูกพิพากษา ปี 43 บ้านหลังที่หลานซื้อถูกขายทอดตลาดไปแล้วแต่ไม่พอ แม่กับพ่อจดทะเบียนสมรส มีบ้านที่อยู่ 1 หลัง และมีคอนโด 1 หลัง แต่ตัวแม่มีชื่ออยู่ที่คอนโด (ทะเบียนบ้าน) ตอนนั้นคอนโดยังส่งไม่หมดแต่พ่อก็ส่งจนหมดและได้ไปที่กรมที่ดินเพื่อจะไถ่ถอน แต่ที่กรมที่ดินบอกว่าโดนยึดแล้ว แต่ทาวเฮาส์ ไม่ต้องผ่อน เพราะพ่อใช้เงินที่ได้มาจากย่าส่งหมดแล้ว (หาหลักฐานไม่ได้ว่าได้เงินมาจากย่าเพราะนานมากแล้ว) แต่ไม่เคยมีหมายศาลมาที่บ้านเลยนอกจากคอนโด พอแม่เกิดเรื่องฟ้องร้อง ก็ทำให้บ้านไม่สงบ สุดท้ายพ่อกับแม่ก็หย่ากัน เมื่อปี 43 หลังจากศาลพิพากษา จนมาถึงวันนี้ 10 ปี แม่ถูกหมายศาลล้มละลายกลาง มาที่คอนโด ว่ามีหนี้อยู่ 3 ล้านกว่าบาท จะต้องไปศาลฟ้องล้มลาย วันที่ 15 กันยายน 2553 แต่มีหมายมาวันที่ 24 มิถุนายน 2553 อยากรบกวนถามอาจาร์ยว่า
1. บ้านทาวเฮาส์ที่พ่ออยู่จะโดนยึดไหมคะ (กลัวเป็นสินสมรส) เพราะว่ากลัวพ่อไม่มีที่อยู่ท่านก็แก่แล้วและตอนนี้ท่านก็คิดมากกลัวท่านจะป่วยเพราะมีโรคประจำตัว
2. คอนโดโดนยึดไปจะโดนทั้งหมดหรือแบ่งเป็นส่วนของพ่อกับแม่ เพราะตอนไปหย่ากัน ได้เขียนว่าบ้านทาวเฮาส์จะเป็นของพ่อ ส่วนคอนโดจะแบ่งคนละครึ่ง
3. แม่ต้องเป็นคนล้มละลายท่านไม่มีอาชีพอะไรเพราะแก่ (อายุ 60 ปีกว่า) ท่านต้องโดนยึดอะไรบ้าง เพราะตอนนี้ท่านได้มาอยู่กับพ่อที่บ้านทาวเฮาส์เลี้ยงหลาน(ลูกของดิฉัน) แล้วฝ่ายพิทักษ์ทรัพย์จะมายึดของที่อยู่ที่ทาวเฮาส์หรือเปล่าคะท่านต้องไปศาลแล้วฝ่ายพิทักษ์ทรัพย์เขาจะถามอะไรบ้างคะ ต้องให้สาบานอะไรบ้าง อ้อคอนโดตอนนี้ให้หลานอยู่แล้วเขาจะไปยึดของในคอนโดหรือเปล่าเพราะมันเป็นของหลานถ้าโดนยึดจะต้องทำอย่างไร
ต้องขอโทษที่เขี่ยนมารบกวนเพราะส่งสารพ่อกับแม่มากคะ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
จะรอคำตอบจากอาจาร์ยเพราะไม่รู้จะปรึกษาใคร
1. ถ้าทาวเฮ้าส์นั้นเป็นของพ่อคนเดียว ก็คงไม่โดนยึด
2. ถ้าตามข้อตกลงในการหย่าคอนโดเป็นของพ่อครึ่งหนึ่ง พ่อก็ย่อมมีสิทธิไปร้องขัดทรัพย์เพื่อให้เขาแบ่งส่วนของพ่อมาให้พ่อก่อนได้
3. อะไรที่ไม่ใช่ของแม่ เขาก็มายึดไม่ได้ แต่เวลาที่เขามายึดเพราะเข้าใจว่าเป็นของแม่นั้น เจ้าของทรัพย์ที่แท้จริงก็ต้องไปร้องคัดค้านไว้ อย่าปล่อยเลยตามเลย ส่วนทรัพย์สินที่อยู่คอนโดก็ทำนองเดียวกัน
จำไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกันว่า ในการไปเป็นลูกหนี้ร่วมกับใครด้วยความสงสารเพราะนึกว่าไม่น่าจะมีอะไรนั้น ลงท้ายแล้วมันมักจะมีอะไร ถึงหมดตัวได้เสมอ