เรียน อาจารย์มีชัย

เนื่องจากดิฉันได้ทำสัญญาซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 40 โดยทำสัญญากู้ร่วมกับเพื่อน

ปัจจุบันมียอดหนี้รวมต้นและดอกประมาณ 1.9 ล้าน ซึ่งได้เจรจาขอส่วนลดได้ส่วนลดประมาณ 750000 บาท

เท่ากับว่ายอดหนี้คงเหลือ 1.2 ล้านบาทที่ต้องจ่าย แต่ดิฉันไม่ได้มีเงิน มากขนาดนั้น

อยากจะเรียนถามดังนี้ค่ะ

1.ถ้าไม่มีจ่ายเค้าจะฟ้องล้มละลายใช่มั๊ยค่ะ ดิฉันพอจะมีกำลังจ่ายอยู่ประมาณ 2 แสนไม่ทราบว่าทางธนาคารจะยอมรับข้อเสนอหรือไม่ เพราะถ้าถูกฟ้องล้มละลายนั่นหมายความว่าธนาคารจะไม่ได้เงินเลย ดิฉันเข้าใจถูกหรือไม่ค่ะ

2.จำเลยที่2 คือเพื่อนดิฉันเองทางธนาคารจะต้องเรียกเก็บหนี้ด้วยหรือไม่ ต้องแบ่งหนี้คนละครึ่งหรือไม่

3.ทราบมาว่าอายุของการล้มละลาย 3 ปี แล้วช่วง 3 ปีนี้ ถ้าเราถูกฟ้องล้มละลาย เราไม่ต้องจ่ายเงินให้ธนาคารเลยหรือค่ะ

4.ถ้าครบ 3 ปี แล้ว นั้นหมายความว่า หนี้ที่เป็นอยู่ก็หักล้างกันไปใช่มั๊ย แต่ในช่วง 3 ปีเราจะไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินใดๆ ได้เลย

5.ตอนนี้ดิฉันผ่อนบ้านอยู่ 1 หลังผ่อนร่วมกับน้องสาว ยังมีหนี้ค้างอยู่กับธนาคาร 1.7 ล้าน ไม่ทราบว่าทางธนาคารที่เป็นหนี้เรื่องที่ดินจะสามารถมายึดได้หรือไม่

6.ถ้าถูกฟ้องล้มละลาย สามีจะมีผลกระทบด้วยหรือไม่ (จดทะเบียนสมรสตอนซื้อบ้านหลังใหม่ ประมาณปี 46)แล้วเงินฝากที่มีอยู่ในบัญชีของสามีจะถูกอายัดด้วยหรือไม่

7.ปัจจุบันดิฉันยังมีงานประจำทำอยู่ รายได้ต่อเดือนก็ประมาณ 4 หมื่นกว่า เข้าบัญชีเงินเดือน ถ้าถึงเวลาที่ต้องถูกฟ้องล้มละลาย ทางศาลจะอายัดเงินเดือนเราประมาณเท่าไหร่ เพราะดิฉันคิดว่าถ้าต้องถูกหักมาก ก็จะลาออกและไปทำงานอย่างอื่น ที่เป็นเรื่องค้าขายไม่ต้องมีเงินเดือน

ขอบคุณมากค่ะ

1. เขาอาจจะฟ้องล้มละลาย หรือไม่ฟ้องล้มละลาย เพียงแต่ฟ้องให้ชำระหนี้ธรรมดาก็ได้  แต่ที่เข้าใจว่าถ้าเขาฟ้องล้มละลายแล้วเขาจะไม่ได้เงินเลยนั้น คงไม่ใช่ เพราะเมื่อล้มละลายแล้วทรัพย์สินทั้งปวงของคุณก็จะต้องถูกนำไปจัดสรรปันส่วนให้เจ้าหนี้ รวมทั้งรายได้ที่มีอยู่ด้วย

2. เขาเอาจากคนไหนได้ก็เอาจากคนนั้น ถ้าได้มาไม่พอก็เอาจากอีกคนหนึ่งได้

3. ระยะเวลาการล้มละลาย ๓ ปีนั้น หมายความว่าต้องสุจริตและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่  มีรายได้อะไรรวมทั้งเงินเดือนก็ต้องรายงานให้เขาทราบเขาจะได้เอาไปชำระหนี้ได้ โดยเขาจะกันเงินไว้ให้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้เลี้ยงดูตนเอง

4. ถ้าได้รับการปลดจากการล้มละลายแล้ว หนี้ก็เป็นอันพับกันไป

5. ถ้ายึดแล้วเป็นประโยชน์กับเขา เขาก็ยึดได้

6. อะไรที่เป็นสินสมรส (คือได้มาในระหว่างสมรส) ก็จะต้องถูกแบ่งกันคนละครึ่ง (รวมทั้งเงินฝากด้วย) ครึ่งส่วนที่เป็นของคุณ ๆ ก็ต้องนำส่งเจ้าพนักงาน

7. เขาก็เอาไปหมด แต่จะกันเงินให้ไว้เลี้ยงชีพส่วนหนึ่งตามที่คุณร้องขอและเขาเห็นสมควร  ถึงคุณไม่ทำงานกินเงินเดือนโดยไม่ทำอาชีพอื่น เมื่อได้เงินมาก็มีหน้าที่ต้องรายงานให้เจ้าพนักงานเขาทราบเพื่อจะได้มาเอาไปชำระหนี้เหมือนกัน  การปกปิดหรือยักย้ายถ่ายเท อาจกลายเป็นความผิดอาญา และทำให้ต้องล้มละลายอยู่เรื่อยไป (ไม่ใช่ ๓ ปีแล้วจะพ้นอัตตโนมัติ)