เมื่อปี 2538 น้องสาวซื้อคอนโดแต่กู้คนเดียวไม่ผ่านจึงได้มาให้กู้ร่วมซึ่งขณะนั้นตัวเองทำงานบริษัท และไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในคอนโด ต่อมาน้องสาวผ่อนไม่ไหวปล่อยให้ถูกยึดขายทอดตลาดเมื่อ ปี 2549 แต่ได้เงินมาไม่ครบและก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหนี้ ต่อมาเมื่อ 14 ก.พ 52 ได้รับหมายศาลถูกฟ้องล้มละลายทั้ง 2 คน โดยมีหนี้เป็นเงินต้น 696,927.11 ดอกเบี้ย 1,364,915 บาท รวม 2,061843 บาท และต้องขึ้นศาล 29 เม.ย 52 ตอนนี้ดิฉันรับราชการระดับ 5 เงินเดือน 11,930 บาท มีลูก 2 คน อายุ 9 ปีและ 6 ปี และสามีพึ่งจะเสียชีวิตเมื่อ พย.51 ต้องรับผิดชอบครอบครัวซึ่งถ้าถูกฟ้องล้มละลายต้องแย่ ดิฉันขอเรียนถามว่าจะสามารถประนอมหนี้ได้หรือไม่ 2.ดิฉันควรติดต่อเจ้าหนี้ก่อนวันขึ้นศาลหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องขอประนอมหนี้ 3. ศาลจะพิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างไรบ้างกรณีนี้ 4. ดิฉันควรจะคุยกับเจ้าหนี้หรือศาลอย่างไรในกรณีขอความเห็นใจ
1. การประนอมหนี้ย่อมทำได้เสมอถ้าเจ้าหนี้เขายอมรับการประนอมนั้น
2. ก็ควรอยู่จะได้รู้ถึงทีท่าของเจ้าหนี้
3. ศาลไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือคู่กรณี เพราะศาลก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน
4. ก็ต้องลองเจรจากับเพื่อให้โอกาสในการผ่อนส่ง
เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะคุณให้ความสำคัญกับการเป็นลงชื่อเป็นลูกหนี้ร่วมน้อยเกินไป โดยไม่ได้คิดว่าการไปเป็นลูกหนี้ร่วมเพื่อช่วยเหลือคนอื่นนั้น แท้ที่จริงคุณก็คือลูกหนี้ตัวจริงด้วย และเมื่อเขาไม่สามารถผ่อนส่งได้ คุณก็เฉยเสียไม่ได้นึกว่าตัวเองเป็นลูกหนี้ด้วย ไปนึกเอาเองว่าเมื่อเงียบไปก็คงจบไป ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง เพราะไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนเขาจะปล่อยเฉยหรอก การที่เขาเงียบไปควรจะต้องเริ่มรู้สึกตัวว่าในระหว่างนั้นดอกเบี้ยมหาโหดจะเดินหน้าอยู่เรื่อยไป ดังจะเห็นได้ว่าเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเงินถึงกว่าสองเท่าของหนี้จริง ทั้งหมดเกิดจากความไม่ให้ความสนใจเพียงพอ ดังนั้นเมื่อถูกฟ้องเป็นคดีแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยให้ซ้ำรอยอีก