อายุความแพ่ง และการบังคับคดี
เรียนถามอาจารย์ครับ
ผมได้กู้ร่วมกับคุณแม่เพื่อปลูกบ้าน แต่เมื่อเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ก็ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้จึงถูกยึดบ้านไป และศาลแพ่งตัดสิน ให้ชำระ เงินต้น 900,000 บาท ดอกเบี้ย 400,000 บาท และอัตราดอกเบี้ย 19.5% ถ้าลูกหนี้ชำระไม่ได้ให้ยึดทรัย์จำนองขายทอดตลาด เมื่อ 25 มิถุนายน 2541
เวลาผ่านมา 10 ปี ธนาคารได้โอนหนี้ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ ในปี 2549
ทรัพย์ถูกขายทอด ในปี 2550
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนก่อนมีหมายศาลล้มละลายส่งมาที่บ้าน 25 กรกฏาคม 2551
มียอดหนี้ทั้งสิ้น 900,000 + 400,000 + 1,400,000 = 2,700,000 บาท
อยากทราบว่า
1. อายุความ 10 ปี ควรจะหมดที่ 25 มิ.ย. 2551 หรือ 10 ปี + 1 เดือน
เพราะบางคนบอกว่า 30วันของสิทธิ์อุทธรณ์ ถึงแม้จะไม่ใช้สิทธินั้น ก้อให้นับ รวมอยู่ด้วย
2. อัตราดอกเบี้ยที่นำมาคิดได้นั้น จำกัดเพียง 5 ปี ใช่หรือไม่
3. การที่ทรัพย์ถูกขายไปนับแต่ปี 2550 แสดงว่าโจทย์จงใจทุจริตจากลูกหนี้ สามารถนำมายกฟ้องได้หรือไม่
4. โดยปกติ ทรัพย์ที่ถูกขายทอดตลาด จะมีราคาประเมินของกรมที่ดิน ซึ่งการขายแต่ละครั้งนั้น ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินของกรมที่ดิน ใช่หรือไม่
5. การเป็นผู้กู้ร่วม สามารถ บังคับฟ้อง โดยเฉลี่ยหนี้ เพื่อไม่ให้ครบ 1 ล้าน / คนสำหรับการฟ้องล้มละลายได้หรือไม่
6. เมื่อศาลตัดสินดอกเบี้ย 19.5% ในยุคฟองสบู่แตก เมื่อนำมาใช้คิดกับลูกหนี้ หลังจาก 1 ปี ให้คิดดอกเบี้ยตามประกาศของแบงค์ชาติได้หรือไม่
7. มีบัญชี หุ้นระยะยาว 5 ปี พ.ศ. ที่ใช้ในการลดหย่อนภาษี (ใช้ไปแล้วในปีก่อนบางส่วน) เมื่อถูกพิทักษ์ทรัพย์ จะต้องถอนออกมาไหมครับ เพราะจะไปเกี่ยวกับภาษีย้อนหลังอีก
-ขอบพรุคุณครับ
|