ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    050465 แม่ต้องการหย่ากับสามีที่เห็นแก่ตัวลูก9 กุมภาพันธ์ 2558

    คำถาม
    แม่ต้องการหย่ากับสามีที่เห็นแก่ตัว

    เรียนสอบถามคุณมีชัยค่ะ


    หนูกังวลมากเลยค่ะตอนนี้แม่กำลังต้องการจะหย่า กับผู้ชายคนนึงซึ่งจดทะเบียนกับแม่ เนื่องจาก เค้ามีพฤติกรรม หึงหวง ไม่ชอบให้แม่ไปคบกับใคร  คือ ถ้าแม่คบกับเค้าต่อคงไม่มีเพื่อนแน่ๆค่ะ อีกทั้งยังทำร้ายร่างกาย ข่มขู่  แม้มางานศพพ่อหนูเค้าก็พยายามพูดและกีดกันเพื่อไม่ให้แม่มา โดยไม่นึกถึงจิตใจหนูกับน้องเลย ตอนนี้แม่ต้องการหย่ากับเค้า ซึ่งหนูอยากให้เรื่องมันจบมาก  แต่หนูกังวลใจในหลายเรื่องที่ต้องการปรึกษา ขออนุญาตแยกแป็นข้อๆตามนี้นะคะ


    1) กรณีที่เรานัดเค้ามาทำการหย่าที่อำเภอ แล้วเค้าไม่มา เราควรทำอย่าไรดีคะ  และถ้านัดมาที่อำเภอ จะปลอดภัยไหมคะ หนูกลัวเค้ามีอาวุธมาทำร้าย ข่าวสมัยนี้ยิ่งมีกรณียิงกันเยอะแยะอยู่ด้วยค่ะ


    2) แม่อยู่กินกับเค้ามาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ก่อนที่จะจดทะเบียนสมรส และในทะเบียนสมรสได้ระบุไว้ด้วยว่าอยู่กินกันมาก่อนจดทะเบียนเป็นเวลา 1 ปี สมมติว่าจดทะเบียนกันวันที่ 1 ก.พ. 57  ทรัพย์สิน หรือ ภาระหนี้ ที่เกิด ภายในวันที่ 1 ก.พ. 56 - 1 ก.พ. 57  (ก่อนวันจดทะเบียน 1 ปี) ถือเป็นสินสมรสไหมคะ

     

    3) สืบเนื่องจากข้อ 2) กรณีบ้าน ถูกสร้างในที่ดินซึ่งแม่เคยทำสัญญาเช่าซื้อไว้(น่าจะเช่าซื้อนะคะ หนูไม่แน่ใจ) โดยมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน แต่ยังไม่มีการโอนเป็นชื่อแม่ แล้วแม่ได้ทำการกู้เงินมาสร้าง  ตอนนี้ทะเบียนบ้านเป็นชื่อน้องชาย 

    กรณีนี้ทางฝ่ายผู้ชายคนนั้น บอกว่าภาระหนี้ เค้าไม่รับรู้เนื่องจากได้บวชอยู่ (หนูคิดว่าธุรกรรมแบบนี้พระไม่สมควรยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว) สมมติว่าจดทะเบียนกันวันที่ 1 ก.พ. 57   แม่กู้เงินวันที่   1 ต.ค. 56 ซึ่งอยู่ในช่วง 1 ก.พ. 56 - 1 ก.พ. 57 (ก่อนวันจดทะเบียน 1 ปี)

     

    กรณีนี้ ฝ่ายชายอ้างว่าไม่รับรู้ได้ไหมคะ  เพราะถึงไม่รับรู้ว่ากู้  แต่หลังจากสึกออกมา ก็มาอยู่บ้านหลังที่แม่สร้าง ด้วยเงินกู้นั้นอยู่ดี ซึ่งด้วยจำนวนเงินที่แม่มี หรือ เงินบำนาญที่แม่ได้ เค้าน่าจะรับรู้ได้ว่าแม่มีไม่มากมายขนาดที่เอาไปสร้างบ้านได้อยู่แล้วค่ะ (ตอนที่แม่โทรไปเจรจาเพื่อขอหย่า เค้าบอกว่า จะอยู่บ้านนี้ไปจนตาย  ภาระหนี้เค้าไม่รับรู้)

     

    4) ตอนนี้แม่หนีออกมาจากบ้านที่อยู่กับเค้ามาเป็น เวลาเกือบ 1 ปีแล้ว สาเหตุที่หนีคือ พ่อของหนูเสียชีวิต แล้วแม่สงสารหนูกับน้อง ซึ่งหนูเป็นพี่คนโต ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานศพ รวมทั้งสภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ซึ่งถ้าไม่หนีออกมาเค้าไม่ยอมให้แม่ออกจากบ้านแน่นอนค่ะ


    กรณีนี้ เค้าสามารถเอามาเป็นข้ออ้างในการสู้กับแม่ได้ไหมคะ กรณีถ้าแม่ฟ้องหย่า


    5) แม่เคยโดนทำร้ายร่างการ แต่เมื่อไปแจ้งความ ทางโรงพักไม่ยอมรับเรื่อง แล้วยังโดนบังคับให้เลือกคบกับญาติคนที่พาไปโรงพัก

    กรณีนี้ ถ้าเราฟ้องหย่า สามารถพาญาติไปเป็นพยานได้ไหมคะ


    6) หนูเคยได้รับ SMS ขู่ว่า ให้บอกแม่ว่าถ้าไม่กลับมา (แต่แม่ไม่กลับนะคะ) จะเผาบ้านทิ้ง หนูได้ไปแจ้งความไว้

    กรณีนี้ ถ้าเราฟ้องหย่า สามารถเอามาเป็นหลักฐานที่หนักแน่นได้ไหมคะ ว่าเค้ามีการขู่ขวัญ ให้เราวิตก มีผลต่อจิตใจ


    7) แม่เคยบอกว่าจากที่เคยแยกจากเค้ามา แล้วกลับไปอยู่กับเค้าใหม่ เนื่องจากเค้าขู่จะทำร้ายลูก และ ที่ยอมจดทะเบียน เพราะคิดว่าปัญหาจะจบ เลิกหึงหวง  เลิกประชด เลิกทำร้าย

    กรณีนี้ แม่ไม่มีหลักฐานเลย พอจะมีทาง เอามาใช้เป็นหลักฐานกรณีถ้าต้องฟ้องหย่าได้ไหมคะ   


    คำถามหนูยาวไปหน่อยนะคะ จากลูกคนนึงที่เป็นห่วงทั้งแม่ ทั้งน้องค่ะ หรือ ถ้าคุณมีชัยมีข้อแนะนำ หนูรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ 

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ

    คำตอบ

    ๑. ถ้าเขาไม่มา ก็หย่าไม่ได้ ส่วนการทำร้ายร่างกายนั้น ถ้าเขาทำร้ายก็ควรรีบแจ้งความกับตำรวจไว้จะได้ใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า ในกรณีที่เขาไม่ยอมหย่าดี ๆ

    ๒. ไม่เป็น ทรัพย์ของใครก็เป็นของคนนั้น

    ๓. ถ้าเป็นที่ดินของแม่คุณที่มีมาก่อน ก็เป็นสินส่วนตัว ส่วนบ้านเมื่อเป็นชื่อของน้องชาย ก็ย่อมเป็นของน้องชาย

    ๔.  เหตุผลที่หนีออกมาเพราะความกลัวจะถูกทำร้าย เขาใช้อ้างเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้  เพราะไม่ได้สมัครใจที่จะแยกตัวออกมา

    ๕. หาใครก็ได้ที่เคยเห็นเขาทำร้ายร่างกายไปเป็นพยานก็ได้

    ต่อไปเวลาเขาทำร้ายก็ไปแจ้งความ หากตำรวจเกลี้ยกล่อม ก็ให้ยืนยันว่าต้องการแจ้งความ

    ๖. ใช้เป็นหลักฐานได้ เก็บ SMS นั้นไว้ให้ดี

    ๗. ก็เมื่อไม่มีหลักฐาน แล้วจะเอาอะไรไปเป็นพยานได้ล่ะ นอกจากอ้างตัวเองเป็นพยาน  แต่การยอมจดทะเบียนสมรสเพราะคิดว่าเขาจะเลิกหึงหวงน่ะ เป็นความเข้าใจเอง ใช้อ้างอะไรได้ยาก


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    9 กุมภาพันธ์ 2558