การส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่
เรียน อ.มีชัย ที่เคารพ
ดิฉันขอเรียนถามปัญหา ดังนี้ ค่ะ
1. พ่อและแม่ แต่งงานจดทะเบียน และมีดิฉัน พอแม่คลอดดิฉันแล้วก็เอาดิฉันมาให้ตาและยายเลี้ยง และตายายก็ส่งเสียให้เรียนมาตลอดจนเรียนจบ ส่วนพ่อ แม่ ก็แยกครอบครัวไปอยู่กันเอง ไม่เคยมาส่งเสียเลี้ยงดูดิฉันเลย
2.พอดิฉันอายุได้ประมาณ 8 ขวบ พ่อ แม่ ก็หย่ากันตามกฎหมาย สาเหตุจากพ่อทำร้ายร่างกายแม่ ซึ่งเรื่องถึงตำรวจด้วย และแม่ก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านตายายเหมือนเดิม
3.ตอนนี้ ดิฉันมีครอบครัว และมีงานทำแล้ว และพ่อซึ่งตอนหลังได้บวชเป็นพระก็มาเรียกร้องให้ดิฉันส่งเงินค่าเลี้ยงดูเป็นรายเดือน และให้ซื้อของใช้ให้ท่านตามที่ท่านอยากได้ ซึ่งดิฉันก็ให้ไปบ้างเป็นบางครั้งตามความจำเป็น แต่ดิฉันก็พยายามอธิบายให้ท่านฟังว่า ดิฉันเงินเดือนน้อยและมีภาระในการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และมีหนี้สินอยู่พอสมควร สาเหตุจากที่ต้องสร้างตัวและทรัพย์สินด้วยตนเอง เพราะไม่ได้มีทรัพย์สินมรดกใดที่ได้จากพ่อและแม่เลย แต่พ่อก็ยังโทรมารบกวนเรื่องเงินบ่อยมาก และบางครั้งก็มาถึงที่ทำงาน (ดิฉันทำงานอยู่คนละจังหวัดกับวัดที่พ่อบวช ซึ่งพ่อใช้เวลาในการเดินทางมาหาดิฉันประมาณ 800 ก.ม.) โดยพ่ออ้างว่าเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องดูแลพ่อ
4. พ่อเคยบอกว่า หากดิฉันไม่ดูแลท่าน ท่านจะสึกออกมา และทำตัวสำมะเลเทเมาเหมือนเดิม และก็คงจะไม่พ้นว่าท่านจะต้องมาหาดิฉันที่ทำงานอีกซึ่งข้อนี้ สามีของดิฉันเริ่มรับกับพฤติกรรมของพ่อดิฉันไมได้แล้ว แต่เขาก็เห็นใจดิฉันอยู่มาก
คำถาม
1. ตามกฎหมายดิฉันมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธการเลี้ยงดูพ่อได้หรือไม่ (ส่วนแม่ ดิฉันก็ส่งเสียเลี้ยงดูท่านตามสมควร)
2. พ่อ มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากดิฉัน ได้หรือไม่
3. หากพ่อสึกจากพระอย่างที่ท่านพูด ทำตัวสำมะเลเทเมา และมารบกวน และเรียกร้องเงินจากดิฉันถึงที่ทำงานบ่อย ๆ ดิฉันควรจะทำอย่างไรดี
4.ดิฉันทราบมาว่า ตามกฎหมายลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุพการี แต่บุคคลอื่น สามารถฟ้องร้องแทนได้ใช่มั๊ยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สามีของดิฉัน (แต่ดิฉันไม่อยากจะทำค่ะ เพราะรู้ดีว่าจะเป็นบาปกรรม แต่บางครั้งพ่อก็กดดันดิฉันมากเกินไปค่ะ)
ดิฉันขอเรียนถามอาจารย์เพียงเท่านี้ค่ะ ขอกราบขอบพระคุณในคำตอบล่วงหน้าค่ะ
ด้วยความเคารพ
ประภาพรรณ
|