อยู่กับสามี มีบุตร 1 คน (อายุ15ปี กำลังขึ้นม.4) แต่จดทะเบียนสมรส ปี49 เคยเลิกกับแฟนด้วย ประมาณ6-7ปี พอกลับมาอยู่กันใหม่จึงแต่งงานและจดทะเบียนสมรส แต่ก่อนจะจดทะเบียนกันมีภาระหนี้สินโดยเป็นชื่อของดิฉันคนเดียวเกือบ4แสน แต่ภายหลังดิฉันได้พิมพ์สัญญาให้เขาเซ็นรับผิดชอบด้วย รวมทั้งสัญญาเงินกู้แม่ยาย ก่อนแต่งงานอีกหลายหมื่นบาท สามีมีนิสัยเล่นการพนัน เจ้าชู้ ไม่รับผิดชอบครอบครัว ทั้งๆที่ทำงานบริษัทมั่นคงมาก เคยทำร้ายร่างกายด้วย(หลายครั้ง) และเคยไปแจ้งความด้วย หลังจากนั้นไม่เคยโดนอีก ปัจจุบันดิฉันไม่ได้ทำงานเพราะหนี้สินหลายแสนไม่ได้ส่งเลย บางที่มีหมายฟ้องด้วยแต่ไม่เคยไป เคยไปทำงานราชการอยู่ 8-9เดือนก็ต้องลาออกเพราะสินเชื่อต่างๆโทรศัพท์ไปทวงเลยต้องรีบลาออกจากงาน(อ้างว่าสุขภาพไม่ดี) จึงไม่สามารถทำงานที่ไหนได้ ซื้อบ้านก็ใช้ชื่อญาติเพราะไม่สามารถมีทรัพย์เป็นของตนได้ พ่อแม่สามีก็เกลียดทั้งดิฉันและลูกมากไม่มีความเมตตาเลย ล่าสุดสามีเล่นการพนันไม่ให้เงิน ดิฉันเลยอาละวาดให้ไปหาเงินมา จากวันนั้น 3 เดือนแล้วไม่เคยกลับมาเลย ไม่ส่งเงินด้วย ลูกก็มีค่าเทอม ค่าครองชีพ ค่าบ้าน ค่าน้ำ+ไฟ แต่ละเดือนภาระ 9000 บ. ไม่รวมค่ากินและค่าเทอมลูก ยืมเงินคนอื่นมาใช้จนเขาไม่มีให้แล้ว สามีเงินเดือน หมื่นกว่าบาท มีโอที ก็ สองหมื่นกว่าบาท โบนัสปีละประมาณ1แสน มีทุนเรือนสหกรณ์ประมาณ8หมื่น แต่มียอดกู้1แสนบาท ได้ยินข่าวว่าเขาไปเช่าห้องอยู่ไม่รู้อยู่กับใคร 1.ดิฉันจะฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูตนเองและบุตรได้หรือไม่ 2. เอกสารที่เซ็นว่าจะรับผิดชอบกับสินเชื่อ,บัตรเครดิต,ผ่อนของ และกู้เงินแม่ก่อนแต่งงาน จะฟ้องได้ใช่หรือไม่ 3. การฟ้องค่าใช้จ่ายแพงหรือไม่และใช้เวลาดำเนินการฟ้องนานมั้ย 4.ไม่อยากหย่าแต่มีคนบอกว่าเขาจากไป3ปีมีสิทธิฟ้องหย่าเราจริงมั้ย และถ้าเราไปอยู่ที่อื่น(ตจว.)เขาอ้างว่าหาเราไม่เจอแล้วจะฟ้องเราได้หรือไม่ ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยนะคะ เพราะตอนนี้ไม่มีเงินเลย ทุกข์มาก ยังไม่รู้จะทำมาหากินอะไร ลูกก็กำลังจะเปิดเทอม อ้อ หากถึงที่สุดแล้วคิดว่าถ้าเขาไม่เอาเรา เราควรฟ้องหย่ามั้ยและจะได้อะไรมาชดใช้กับเราหรือไม่ เพราะเราเหมือนถูกตัดมือตัดเท้ามีความรู้แต่ไม่สามารถไปสมัครงานบริษัทได้เลย อับอายผู้คนไปทั่วทั้งที่บ้านและที่ทำงาน (ช่วงที่เลิกกันไปหลายปี สามีเคยไปจดทะเบียนสมรสแต่หย่าก่อนมาอยู่กับดิฉันค่ะ) สามีมีภาระปัจจุบันคือ ผ่อนมอเตอร์ไซด์2พันกว่าบาท

1. เขามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตร และถ้าเขามีฐานะดีกว่าคุณ ก็อยู่ในฐานะที่จะต้องค้ำจุนคุณด้วย ถ้าเขาไม่ทำก็อาจฟ้องร้องได้ แต่จะได้เท่าไรก็ต้องดูฐานะของเขา

2. สัญญาที่ทำกันระหว่างสมรส เขาอาจบอกเลิกเสียเมื่อไรก็ได้

3. ก็ขึ้นอยู่กับทนายความแต่ละแห่งซึ่งเขาเรียกไม่เหมือนกัน ต้องลองถามเขาดู ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับศาลว่ามีคดีมากไหม แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นปี

4. การแยกกันอยู่ที่ใช้อ้างเป็นเหตุแห่งการหย่าได้ ต้องเป็นการแยกกันอยู่ด้วยความสมัครใจเป็นเวลาติดต่อกันเกิน ๓ ปี

5. การที่จะฟ้องหย่า ไม่ว่าฝ่ายใดจะฟ้อง จะต้องมีเหตุตามที่กฎหมายกำหนด การละทิ้งไปเกินหนึ่งปีก็เป็นเหตุในการหย่าอย่างหนึ่ง