ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    039527 การแยกกันอยู่เพราะชีวิตแย่ลงผู้หญิง11 มีนาคม 2553

    คำถาม
    การแยกกันอยู่เพราะชีวิตแย่ลง

    กราบเรียน อาจารย์มีชัย   

    ดิฉันมีเรื่องที่จะปรึกษาค่ะ     ดิฉันได้แต่งงานกับสามี เมื่อเดือนกัยายนพ.ศ. 2548  และเมื่อแต่งงานเสร็จเราก็แยกกันอยู่ เพราะสามีรับราชการอยู่ กทม.  ดิฉันอยู่ต่างจังหวัด และเป็นลูกจ้างส่วนราชการ มีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้หญิง  และอยู่ที่บ้านของตนเองรวมพ่อกับแม่ของดิฉัน  และเมื่อเดือน มี.ค. 2552  สามีได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และอยู่บ้านพักราชการ    ปัญหามีอยู่ว่า

    ตลอดเวลา ก่อนที่สามีจะย้ายมา  ดิฉันและพ่อกับแม่ดิฉัน  เป็นผู้รับผิดชอบเลี้ยงดูลูก ซึ่งมีโรคประจำตัว  และต้องมีการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง  โดยที่สามีไม่ได้ให้การช่วยเหลือใด ๆ เลย  และไม่เคยให้ความจุนเจือครอบใครเลย  ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเงินเดือนข้าราชการน้อย    แต่เมื่อได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน   สามีก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือจุนเจือเลย    ดิฉันเป็นผู้หาเงินและรับภาระทั้งหมดภายในบ้าน   ทั้งเรื่องค่าเทอมลูก  ค่ารักษาพยาบาล  ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำมันรถ ทุกอย่าง  รวมถึงการไปส่ง - รับลูกที่โรงเรียน  ไปหาหมอซึ่งต้องขับรถไปอีกจังหวัดหนึ่ง  คือสามีขับรถไม่เป็นและไม่คิดจะหัดขับเลย  ดิฉันทำงานประจำและรับทำงานพิเศษ  เพื่อหาเงินไว้ใช้จ่าย   ซึ่งส่วนที่จะได้รับจากสามีก็คือ การใช้สิทธิในการรักษาพยาบาล  และค่าเทอมลูก    อื่น ๆ ก็ไม่ได้อะไรเลย  ทำให้ดิฉันต้องเป็นหนี้   ซึ่งหนึ่งปีที่ผ่านมาที่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน  ดิฉันเป็นหนี้เพียงผู้เดียว  เป็นเงินประมาณสองแสน   ซึ่งดิฉันทนไม่ได้กับชีวิตที่แย่ลงทุกขณะ  ดิฉันอยากจะแยกทางกับสามี โดยการหย่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอยากถามดังนี้ค่ะ

    1. ดิฉันจะแยกกันอยู่โดยดิฉันและลูกจะกลับไปอยู่บ้านของตนเอง ซึ่งเค้าตกลง เผื่อว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น(แต่ไม่ยอมหย่า)  และได้ขู่ว่า  ถึงแม้จะหย่าให้แล้วแต่เค้าพูดว่าไม่ให้ดิฉันมีคนใหม่เด็ดขาด  ตรงนี้กฎหมายมีบังคับด้วยหรือไม่คะ

    2. อยากทราบว่า  หลังจากที่แยกกันอยู่แล้วต้องใช้เวลาอีก 1 ปี หรือ 3 ปีค่ะ ถึงจะหย่ากันได้   หมายถึงต้องฟ้องหย่าใช่ไม๊คะ

    3. เมื่อถึงที่สุดแล้ว  ได้แยกกันอยู๋  แต่เค้าไม่สามารถดูแลรับผิดชอบครอบครัวได้ตามสมควร    ดิฉันสามารถฟ้องหย่าได้ไหม 

    4. สามีอ้างว่า ถ้าหย่าแล้วจะพาลูกกลับไปอยู่ภูมิลำเนาของตนเอง  และให้แม่ของเค้าเป็นผู้ดูแลลูก   ซึ่งลูกไม่เคยรู้จักใครเลย โดยอ้างสิทธิ์ว่าตนเองเป็นข้าราชการมีหน้าที่ตำแหน่งที่มั่นคง  กฎหมายให้สิทธิ์กับข้าราชการ  อยากถามว่า  บุตรจะอยู่กับดิฉันได้ไม๊คะ  และต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะให้ลูกอยู่กับดิฉัน

    ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ 

    คำตอบ

    1. เมื่อหย่ากันแล้วต่างคนต่างก็เป็นอิสระ ใครจะไปมีใหม่อย่างไรก็เป็นเรื่องของคนนั้น

    2.-3. ต้องแยกกันอยู่โดยสมัครใจ ๓ ปี จึงจะใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าได้

    4.  เมื่อหย่ากันแล้ว ถ้าตกลงกันได้ ก็เป็นไปตามที่ตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ปกครองดูแลลูก ถ้าตกลงไม่ได้ก็ต้องเป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณา  ซึ่งศาลจะพิจารณาจากประโยชน์และความสุขของเด็กเป็นสำคัญ  คุณควรเก็บหลักฐานต่าง ๆ ที่เขาไม่เคยดูแลลูกไว้ให้ดี เพราะอาจใช้เป็นพยานในการแสดงให้เห็นว่าตลอดเวลาคุณเป็นฝ่ายดูแลบุตรแต่ฝ่ายเดียว


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    11 มีนาคม 2553