กราบเรียน อาจารย์มีชัย ที่เคารพ
กระผมมีหน้าที่ดูแลการใช้ระเบียบการปฏิบัติราชการในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งสถานที่ราชการแห่งนี้ไม่มีระเบียบการบริหารลูกจ้าง แต่จะใช้สัญญาจ้างเป็นเงื่อนไขในการจ้าง ตามสัญญาจ้างกำหนดเงื่อนไขเรื่อง การลาอุปสมบทว่า " ผู้รับจ้างที่ไม่เคยอุปสมบทมาก่อนและทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ประสงค์จะลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา....และต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะหยุดงานเพื่ออุปสมบทได้ โดยไม่รับค่าจ้าง " ในช่วงภาคฤดูร้อนมหาวิทยาลัยได้จัดโครงการอุปสมบทให้กับนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัย มีบุคลากร 3 คน เข้าร่วมอุปสมบทด้วย และมหาวิทยาลัยมีคำสั่งโดยวาจาให้จ่ายค่าจ้างแก่บุคลากรที่เข้าร่วมอุปสมบทโครงการนี้ โดยไม่ถือเป็นวันลา และให้ออกคำสั่งเป็นไปราชการอบรมธรรมะแทน แต่ในขณะเดียวกันบุคลากรที่ลาอุปสมบทที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ให้งดจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้าง กระผมเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งบุคลากรทุกคนใช้สัญญาจ้างฉบับเดียวกัน ดังนั้นก็ควรจะอยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน และต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้าง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าบุคลากรที่อุปสมบทในโครงการนี้เป็นคนของผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยนี้ กระผมไม่ต้องการปฏิบัติราชการแบบเลือกปฏิบัติ รู้สึกละอายใจที่ผู้บริหารของผมไม่มีจริยธรรม ไม่ยึดถือ กฎ ระเบียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่กลับไม่ปฏิบัติตาม เรื่องนี้เป็นส่วนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแต่เรื่องทุจริต คิดมิชอบ กำลังลุกลามใหญ่โต ต่างกอบโกยผลประโยชน์เป็นของตัวเองและพวกพ้อง ทุกคนในมหาวิทยาลัยก็รู้กันหมด แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร หรือร้องเรียนไปสู่องค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต เพราะกลัวตนเองจะเดือดร้อนและได้รับอันตราย และก็ไม่มั่นใจว่าองค์กรเหล่านั้นจะสนใจไปตรวจสอบ แม้กระทั่งรัฐบาลเองก็มีแต่เรื่องทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าเป็นอย่างนี้ประเทศไทยจะเดินทางไปทางไหน เพราะมีแต่เรื่องทุจริตกันไปหมดแล้ว
ในฐานะผมเป็นผู้ดูและระเบียบ จึงขอคำแนะจากอาจารย์ว่าควรจะทำอย่างไร เพื่อจะชี้แจงให้ผู้บริหารทราบ ผมไม่กลัวเพราะถือว่าผมปฏิบัติตามกฎหมาย จึงรบกวนอาจารย์ช่วยตอบปัญหาด้วยครับ
ขอบพระคุณอย่างสูง
ท่าอิฐ
22 เม.ย.49
เรียน ท่าอิฐ
ถ้าอยากสะกิดใจให้เขารับผิดชอบ ก็อาจทำได้โดยวิธีทำบันทึกเสนอขึ้นไปว่า ตามที่มีคำสั่งด้วยวาจาให้เบิกค่าจ้างในระหว่างลาอุปสมบทตามโครงการของมหาวิทยาลัยนั้น โดยที่ตามสัญญาจ้างกำหนดไว้ว่าให้ลาได้โดยไม่ได้รับค่าจ้าง จึงเรียนมาเพื่อสั่งการยืนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเบิกจ่ายต่อไป" ถ้าเขายังยืนยันมา ก็ถือว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณ