เรียนท่านอาจารย์มีชัย
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายรับรองเงินเดือน 300 บาทต่อวัน และวุฒิปริญญาตรี 15000 บาทต่อเดือน และได้มีการแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วย การเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวฯ (ฉบับที่ ๕) โดยได้กำหนดบทนิยามลูกจ้างชั่วคราวเข้าไปด้วย (ส่วนตัวผมเข้าใจดีครับว่าต้องเป็นลูกจ้างเงินงบประมาณ) และต่อมากระทรวงการคลังได้ทำหนังสือเวียนมาว่า กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วขอเรียนว่า เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงเห็นสมควรให้ส่วนราชการดำเนินการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้กับลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วย การเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั้วคราวฯ (ฉบับที่ ๕) โดยอนุโลม โดยให้อยู่ในดุลพินิจของส่วนราชการในการช่วยเหลือเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ส่วนราชการจะต้องมีเงินนอกงบประมาณเพียงพอในการจ่ายเงินดังกล่าว
จากข้อเท็จจริงข้างต้น ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า หนังสือเวียนดังกล่าวขัดต่อนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ อย่างไร ถ้าขัดจะต้องดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ ข้าพเจ้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ลูกจ้างชั่วคราว และส่วนตัวเห็นว่า คนทำงานต้องได้รับสิ่งที่ควรได้รับตามนโยบายของรัฐบาล การที่กระทรวงการคลังกำหนดแนวทางมาให้เป็นดุลพินิจของส่วนราชการจึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มา ณ ที่นี่
หนังสือกระทรวงการคลังเขาปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว เพราะรัฐบาลเขาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างเอกชน ส่วนเงินเดือนปริญญาตรีนั้น เขาก็มีนโยบายขึ้นให้แต่เฉพาะข้าราชการ ส่วนพนักงานหรือลูกจ้างอื่น ๆ ของส่วนราชการนั้น รัฐบาลไม่ขัดข้องที่แต่ละส่วนราชการจะขึ้นให้ เพียงแต่ให้ไปหาเงินเอาเอง ซึ่งกระทรวงการคลังก็เวียนหนังสือให้ทราบตามความหมายที่ว่า "ส่วนราชการจะต้องมีเงินนอกงบประมาณเพียงพอในการจ่าย" ซึ่งแปลตรง ๆ ว่าถ้าแกไม่มีเงินพอก็อย่าได้ไปขึ้นเงินเดือนเข้าทีเดียว
ที่ตอบไปข้างต้นก็เป็นการตอบไปตามสิ่งที่ปรากฏ อย่าได้เข้าใจว่าผู้ตอบเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเป็นอันขาด