การกำหนดระเบียบใหม่
ผมเป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา ในสถาบันมีหลักเกณฑ์การสนับสนุนให้อาจารย์ไปนำเสนองานวิจัยต่างประเทศ โดยมีหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกองทุนประกาศไว้ว่า ต้องมีการพูดนำเสนอและมีการตีพิมพ์เนื้อหาในรายงานการสัมมนา จะได้รับทุนสนับสนุนตามค่าใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๑ แสนบาท ผมได้ยื่นขอทุนสนับสนุนประมาณ ต้นเดือนกันยายน โดยสอบถาม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยว่าหลักเกณฑ์ยังคงเดิม แต่ในวันที่ ๒๔ กย. คณะกรรมการกองทุนมีการประชุมเพี่อพิจารณาคำขอของผมกับอาจารย์อื่นอีก ประมาณ ๗ ท่าน คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ กำหนดวงเงินสนับสนุนสูงสุดเพียง ๕๔,๐๐๐ บาท โดยไม่พิจารณาความจำเป็นตามจริง แต่ใช้วิธีนำงบที่มีทั้งหมดหารด้วย ๒๐ (คือ จำนวนคนที่คาดว่าจะยื่นขออีกในรอบปี) และพิจารณาให้ผมเพียง ๔๐,๐๐๐ บาท ขณะที่เป็นประเทศเดียวกัน งานเดียวกันกับอีก ๒ ท่าน เหตุผล คือ ผมเคยไปมาแล้วในปีที่แล้ว ส่วนอีก ๒ ท่านยังไม่เคยไป หลักเกณฑ์เหล่านี้ไม่เคยแจ้งให้ทราบเพิ่งมากำหนดในการประชุมคราวนี้ และบังคับใช้เลย
ผมมีความเห็นว่าการตัดสินลักษณะนี้ไม่ถูกต้อง ไม่แน่ใจในแง่นิติศาสตร์หรือแง่ใด ผมขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า
๑. หลักเกณฑ์ที่ใช้ควรประกาศให้ทราบทั่วไปก่อนบังคับใช้ หลักเกณฑ์ใหม่ควรรอประกาศแล้วบังคับใช้กับผู้ยื่นขอรายใหม่ ใช่หรือไม่ครับ
๒. ไม่ควรพิจารณาเรื่องที่ยื่นตามหลักเกณฑ์เดิมแล้วเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ในทันที ใช่หรือไม่ครับ
๓. คณะกรรมการสามารถประชุมแล้วเปลี่ยนหลักเกณฑ์ไปเรื่อย ๆ และกล่าวว่าสามารถทำได้ เพราะในระเบียบการแต่งตั้งกรรมการมีข้อความว่า ...."หรือแล้วแต่มติของคณะกรรมการ" การเปิดโอกาสอย่างนี้ สร้างความยุ่งยากในการปฏิบัติมาก เท่ากับว่าในโอกาสหลังคณะกรรมการอาจลงมติให้วงเงินเพิ่มสำหรับรายอื่นได้ ใช่หรือไม่ครับ
๔. ท่านมีแนวคิดในการแก้ปัญหานี้อย่างไรได้บ้างครับ เพราะผมมีความเดือดร้อน หลักเกณฑ์เดิมคาดว่าสามารถเบิกจ่ายได้ ในวงเงินตามจริง แต่หากได้รับทุนเพียงสี่หมื่นบาทจะเท่ากับเพียง ๖๐ เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายจริง และคาดว่าไม่น่าจะมีอาจารย์ยื่นขอไปนำเสนอผลงานมากกว่า ๑๐ ท่าน ปีที่ผ่านมามีเพียง ๖ ท่าน ดังนั้นการหารด้วย ๒๐ คนทำให้เงินน่าจะเหลือในปลายปี และอาจมีผู้ได้รับเงินมากกว่าในตอนนั้น แต่ผมจะได้รับน้อยเพราะกันเงินไว้
ขอรบกวนท่านอาจารย์ชี้ทางออกที่เหมาะสมด้วยครับ
สุกรี |