การสู้คดี และขอความเป็นธรรมอย่างเร่งด่วน
เรียน ท่านมีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพ
เรียน ท่านมีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพ
ข้าพเจ้าเป็นข้าราชการพลเรือนมหาวิทยาลัย ระดับ 7 รับราชการมา 10 ปี 7 เดือน ได้รับการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท โดยได้ทำจัดทำเอกสารเท็จลงวันที่ล่วงหน้าก่อนบริษัทจะได้รับการจดทะเบียน อันเป็นแสดงข้อความว่า บริษัทได้อนุมัติให้งบประมาณสนับสนุนโครงการวิจัย อันเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จมีเจตนาหลอกลวง ฉ้อฉล และหลอกลวงเงินของมหาวิทยาลัยนั้น และนัดให้ข้าพเจ้าไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการสอบสวน ภายในวันพุธหน้า
โดยข้าพเจ้าได้ทำการยืมเงินทดรองจ่ายจากมหาวิทยาลัย มาประมาณครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่บริษัทอนุมัติ และมีการจ่ายคืนไปบางส่วนเป็นดอกเบี้ย แต่เนื่องจากยืมเงินมาเกิน 2 เดือน ประมาณ 1 ปี
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ข้าพเจ้าได้ลงทุนในโครงการวิจัย เพื่อต้องการพัฒนางานวิจัยให้ดำเนินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไปมากกว่า 7,000,000 บาท (ซึ่งเป็นเงินงบประมาณมากกว่าที่สนับสนุนและที่ยืมมาจากมหาวิทยาลัย) โดยนำทรัพย์สินเงินทองของครอบครัวข้าพเจ้ามาลงทุนกระทั่งหมดตัว หวังเพียงว่าจะสามารถทดแทนคุณแผ่นดินได้ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะเปลี่ยนผลงานวิจัยเป็นการบริการ นำเงินเข้ารัฐบาล
ผลประโยชน์ได้จัดแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ มหาวิทยาลัย ร้อยละ 50 บริษัท ร้อยละ 20 ข้าพเจ้าและผู้วิจัย ร้อยละ 30
ข้าพเจ้าตั้งบริษัทฯ มาไม่ได้หวังผลกำไร แต่ต้องการช่วยเหลืองานวิจัยให้สำเร็จโดยเร็ว มีเป้าหมายหลัก คือ
1. การประสานงาน ร่วมมือ สนับสนุน ช่วยเหลือ โครงการพัฒนาของบุคคล สถาบันครอบครัว ชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชน องค์กรต่าง ๆ ทุกภาคส่วน อย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้โครงการที่มีปัญหานั้น ๆ สามารถดำเนินงานไปได้ โดยก่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ
2. เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือ ประชาชนทุกระดับ ทุกสาขาอาชีพ ในลักษณะของการดำเนินงานพัฒนาต่าง ๆ ในกรณีที่ต้องถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดำเนินการได้ทันที กระทั่งเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว การที่บริษัทฯ ได้มีโอกาสเข้ามาดำเนินการลักษณะเช่นนี้ ส่งผลให้ประชาชนทุกระดับได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วฉับพลัน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น
บอกเลยว่าตลอดเวลา ข้าพเจ้าไม่เคยได้รับคำชม โดนเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชาระดับภาควิชาฯ มาตลอด แต่ก็อดทน
การแก้ไขปัญหา ของข้าพเจ้าได้นำที่ดินของครอบครัว จำนวน 81 ไร่ ให้ชาวไร่อ้อยเช่า และรวบรวมเงินจากครอบครัวได้เงินมา 1,000,000.00 บาท เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2550 เพื่อใช้หมุนเวียนในงานวิจัย อย่างไรก็ตามก็ยังขาดงบประมาณอีกจำนวนมาก ปัจจุบัน ข้าพเจ้าพยายามหาทางแก้ไขวิกฤติการณ์อย่างเร่งด่วน
ปัจจุบันก็กำลังระดมทุนอยู่ คาดว่าจะได้มามากกว่า 25 ล้านบาท แต่ต้องการให้ผ่านการเลือกตั้งเพราะต้องการทำหน้าที่ราษฎรอย่างเต็มขั้น เลือกคนดีเข้าสภา
ปัจจุบันได้ทำรายงานฉบับสมบูรณ์ของโครงการวิจัย จำนวน 4 โครงการ ได้เสร็จสิ้น แต่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ และโครงการวิจัยเรื่องสุดท้ายกำลังทำรายงานความคืบหน้าให้เสร็จสิ้น (เรื่องที่เป็นปัญหาต้องคดีความ)
จึงอยากปรึกษาความเป็นไปได้ในการสู้คดี เพราะรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบตลอดเวลา
ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่า ทำไมประเทศชาติจึงไม่เจริญ เพราะมัวแต่จะคิดทำร้ายกัน ไม่เคยคิดช่วยเหลือกัน ไม่เคยให้กำลังใจ คิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่น ห้ามใครดีเกินหน้า ดั่งสำนวนที่ว่า ทำดีทำได้ แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย
|