เรียนท่านมีชัย ที่เคารพ
ในปัจจุบันนี้พบว่าในมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการหลายแห่ง ได้ตั้งหน่วยงานภายในขึ้นมา และบริหารงานแบบนอกระบบราชการ เท่าที่รู้จักมีอยู่หลายลักษณะ นี่ย่อมแสดงว่ามีกฎระเบียบที่เอื้ออำนวยให้มหาวิทยาลัยเหล่านั้นสามารถบริหารงานแบบนอกระบบราชการอยู่ และสามารถกระทำได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน อย่างไรก็ตามผมเองยังไม่เข้าใจชัดเจนตรงนี้ จึงขอเรียนถามท่านดังต่อไปนี้คือ
๑) หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยที่บริหารงานแบบนอกระบบราชการ สามารถกระทำได้ด้วยเหตุผลใด และต้องอาศัยกฎระเบียบใดในการจัดตั้งหรือไม่
๒) เคยมีการศึกษาถึงประสิทธิภาพประสิทธิผล จากการบริหารงานด้วยวิธีการนี้ไว้บ้างหรือไม่ และได้ผลประการใด
๓) มหาวิทยาลัยที่ยังเป็นส่วนราชการ จะใช้กระบวนการในลักษณะเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ครับ
ขอแสดงความนับถืออย่าสูง
ผู้น้อย
เรียน ผู้น้อย
1. เนื่องจากทางราชการประกาศไม่ยอมให้ส่วนราชการโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเพิ่มหน่วยงานขึ้น มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ก็รู้ว่ามหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องจัดการเรียกการสอนในรูปของคณะที่เป็นอิสระ จึงมีข้อตกลงยินยอมระหว่างทบวง (ปัจจุบัน สกอ.) และสำนักงบประมาณ ยินยอมให้มหาวิทยาลัยจัดตั้งหน่วยงานนอกระบบได้ และเรื่องใดที่สำนักงบประมาณเห็นดีเห็นงามด้วย ก็อาจจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้ แต่ถ้าเรื่องใดที่มหาวิทยาลัยคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน ก็อาจทำได้เลย
2. จากผลการดำเนินงานของหน่วยงานนอกระบบ ในทุกมหาวิทยาลัย พบว่า มหาวิทยาลัยได้รับประโยชน์ทางการเงินจากหน่วยงานนอกระบบนั้นมากกว่าคณะที่อยู่ในระบบ ทั้ง ๆ ที่บุคลากรของของหน่วยงานนั้นได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าข้าราชการ และการทำงานมีความอิสระมากกว่ากัน แต่แน่นอน ไม่มีใครรับรองได้ว่าหน่วยงานนั้น ๆ จะไม่มีการทุจริต ซึ่งก็พอ ๆ กับที่ไม่มีใครรับรองได้ว่าคณะที่เป็นส่วนราชการจะไม่มีการทุจริต ทั้งสองกรณี เมื่อปรากฏว่ามีการทุจริต ก็สามารถดำเนินการหาตัวผู้มาดำเนินการได้ในระดับเดียวกัน อาจมีผู้กล่าวหาว่า หน่วยงานนอกระบบมักจะเรียกเก็บค่าเล่าเรียนแพงกว่าหน่วยงานในระบบ ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ก็เป็นความจริงที่มีอยู่แม้ในหน่วยงานในระบบราชการ เพราะหน่วยงานในระบบราชการเมื่อจัดให้มีการสอนภาคพิเศษ ก็จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าภาคปกติ และเหตุผลที่สำคัญก็คือ เมื่อเป็นหน่วยงานนอกระบบ รัฐบาลไม่ได้ให้เงินงบประมาณอุดหนุน หรือให้มาก็เพียงเล็กน้อย มหาวิทยาลัยจึงต้องดำเนินการในลักษณะที่สามารถมีรายได้ที่พอเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งจะโทษมหาวิทยาลัยไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบค่าธรรมเนียมกับมหาวิทยาลัยเอกชน หน่วยงานนอกระบบของมหาวิทยาลัยของรัฐ ก็ยังเรียกเก็บค่าเนียมน้อยกว่ามหาวิทยาลัยเอกชนมากมาย
3. มหาวิทยาลัยทุกแห่งถ้าจะขยายงานให้ทันต่อโลกแห่งการแข่งขัน ก็จะต้องทำทำนองนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนนโยบาย
4. รายได้ของหน่วยงานของรัฐ ในภาพรวมก็ยังต้องถือว่าเป็นรายได้ของรัฐ เพียงแต่ได้รับสิทธิที่มหาวิทยาลัยจะนำไปใ้ช้จ่ายตามระเบียบของตนเองได้โดยไม่ต้องนำส่งคลัง ซึ่งก็มีลักษณะทำนองเดียวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่คณะที่เป็นส่วนราชการได้รับสิทธินี้เช่นเดียวกัน ส่วนที่ว่าจะต้องรายงานเข้าสู่ระบบอะไรที่ว่ามานั่นน่ะ ไม่ทราบจริง ๆ