การกู้ยืมเงินของท้องถิ่น
เรียน ท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์ ที่เคารพ
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เฝ้าอ่านคำถามตอบของอาจารญืในประเด็นต่าง ๆ มากมาย ขอยืนยันว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ชอบแสวงหาความรู้ และความถูกต้องวันนี้ผมมีเรื่องที่จะรบกวนอาจารย์ ได้วิเคราะห์และให้คำแนะนำด้วยว่าจะหาทางยับยั่งอย่างไรดีเพื่อไม่ให้องค์กรเสียหายไปมากกว่านี้ เรื่องขอเรื่องมีว่า
1. อบจ.ที่ผมทำงานอยู่เสนอเรื่องขอกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินของรัฐ (ธ.กรุงไทย) ในวงเงิน 630 ล้านบาท ทั้งที่วันนี้ หน่วยงานได้ทำเรื่องขอกู้ยืมเงิน กสอ.ไปที่กรมส่งเสริมฯ เป็นเงินกว่า 70 ล้านบาท และยังจ่ายขาดจากเงินสะสมอกีก 15 ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ก็นำไปสร้างถนน ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางเกศณษฐกิจหรือการพัฒนามากนัก และที่สำคัญโครงการเหล่านี้ ผู้บริหารก็ชักเปอร์เซ็นต์ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ลืมเรียนอาจารย์ว่าโครงการที่ขอกู้ส่วนใหญ่ก็นำมาแบ่งปันในบรรดา สจ. คนละ 10 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 360 ล้านบาท ส่วนใหญ่ทำถนนลูกรัง หรือซ่อมถนนลูกรัง ถนน คสล. เป็นต้น ส่วนที่เหลืออีก 300 ล้าน เป็นโควต้าของฝ่ายบริหาร เพื่อชักเปอร์เซ็นต์ 25-30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้รับเหมาที่อยากได้งาน ลักษณะงานก็ไม่แตกต่างกันกับ สจ.
2. ข่าววงในรับรู้ว่า ฝ่ายบริหารของ อบจ.ตัดเปอร์เซ็นต์ให้ผู้อนุมัติ ประกอบด้วย ผวจ. และผู้จัดการธนาคาร 3-5 เปอร์เซ็นต์ แม้นไม่มีหลักฐานแต่เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้
3. พวกกระผมเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเห็นว่า งปม.ปัจจุบันมีอยู่ 410 ล้าน บาท หากบริหารโดยยึดหลักประสิทธิภาพ และความพอเพียงน่าจะมีความเหมาะสมตามเจนตนาของการกระจายอำนาจ
4. ระยะเวลาการชำระหนี้ 20 ปี ประมาณปีละ 42 ล้านบาท บวกกับดอกเบี้ยเงินกู้เดิม 12 ล้านบาท ตกไปปีหนึ่งมีหนี้ที่ต้องชำระโดยไม่ได้พัฒนา ประมาณ 54 ล้านบาท
พวกกระผมจึงมีปัญญหาว่าจะทำอย่างไรดีที่จะยับยั้งมิให้การกู้ยืมเงินในครั้งนี้ได้
เพราะหากได้รับอนุมัติให้กู้ยืมเงินไปแล้ว จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.เป็นอย่างมาก
ขอบคุณมากครับ
คนท้องถิ่น
|