เนื่องด้วยข้าพเจ้าและประชาชนประมาณ 200 ครอบครัวได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ทางการได้ประกาศหวงห้าม เพื่อสงวนเป็นที่เลี้ยงสัตว์พาหนะ ได้ประกาศขึ้นทะเบียนตามประกาศที่ 16/2476 ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2476 โดยขุนธรรมราชเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการหวงห้าม ท้องที่กิ่งอำขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมเนื้อที่ประกาศจำนวน 3000 ไร่ ปัจจุบันคือ หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 4 ตำบลควนทองและหมู่ 12 ตำบลขนอมบางส่วน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งในขณะนั้นก็ได้มีประประชาชนบางส่วนเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว(อาศัยหลักฐานจากอายุผู้ครอบครอง) และจากนั้นเป็นต้นมาก็เริ่มมีประชาชนเข้ามาอาศัยขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปํจจุบันประชาชนก็ได้อาศัยอยู่เต็มพื้นที่แล้ว แต่เมื่อปี พ.ศ 2517ทางราชการได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปทำการรังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญที่หลวงตามหลักฐานเดิมเนื้อที่ 3000 ไร่ แต่รังวัดได้เนื้อที่เพียง 1446 ไร่ ต่อมาประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วน 1600 ไร่ ได้นำเจ้าหน้าที่ทำการเดินสำรวจออก น.ส.3 โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศเมื่อปี พ.ศ 2519 จึงทำให้ดินแปลงดังกล่าวยังไม่มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงจนถึงปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ 2550ข้าพเจ้าได้ยื่นคำร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรมที่ดินและที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมทำการรังวัดใหม่เพื่อพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาที่ดินอำเภอขนอมได้แจ้งทราบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวขึ้นอยู่ในการดูแลขององค์การบริหารตำบลควนทอง จึงให้ อบต. เป็นผู้จัดตั้งงบประมาณในการรังวัด แต่ อบต. ได้แจ้งกลับมาว่า อบต. ไม่มีอำนาจในการจัดตั้งบประมาณในส่วนนี้ข้าพเจ้าจึงได้เรียนให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทราบ ผู้ตรวจการจึงแนะนำให้ข้าพเจ้าและประชาชนฟ้องร้องต่อศาลปกครอง แต่ประชาชนกลัวว่าการฟ้องต่อศาลนั้นอาจจะเป็นผลกระทบต่อประชาชนผู้ที่ได้รับ น.ส.3ไปก่อนแล้ว ซึงอาจจะนำมาเป็นความขัดแย้งในชุมชน ข้าพเจ้าในนามตัวแทนประชาชนผู้ร้อง ข้าพเจ้าจึงเรียนถามว่าเรื่องนี้ควรจะหาทางออกอย่างไรดี ตอนนี้เรื่องจบอยู่ที่ อบต.ควนทองไม่จัดตั้งงบประมาณประจำปี 2553 ด้วยความเคารพอย่างสูง