ปัญหาเรื่องลาภมิควรได้ - บริษัทเก่าฟ้อง
ผมทำงานในบริษัทหนึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง และผมได้เขียนใบลาออกเพื่อทำกิจการของตนเอง แต่หลังจากลาออกได้ 2 วัน บริษัทเก่าได้ติดต่อผมให้กลับมาทำบริษัทในเครืออีกบริษัทหนึ่ง โดยบอกว่าให้ทำตำแหน่งทีต่ำกว่าเดิมไปก่อน (โดยลดเงินเดือนผมลง 5000 บาท/เดือนจาก 45000 บาท เหลือ 40000 บาท) และฝ่ายบุคคลบอกว่าจะนับอายุงานต่อให้
หลังจากที่ผมทำได้ 3 เดือน ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าผมไม่ผ่านทดลองงาน (ซึ่งผมงงมาก) และได้ไล่ผมออกจากงาน โดยบอกว่าจะจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผม (แจ้งให้ออกวันที่ 4 มกราคม 2548 และให้ออกวันนั้นเลย)
ในช่วงกลางเดือน บริษัทได้โอนเงินให้ผม โดยไม่ได้ผ่านบัญชีเงินเดือนเดิมเป็นเงิน 30000 บาท และหลังจากนั้นปลายเดือนเดียวกัน บริษัทได้โอนให้ผมอีก 62500 บาท รวมแล้วเป็น 92500 บาท และในปลายเดือนต่อมาก็ได้โอนให้ผมอีก 62500 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 155000 บาท
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ทางบริษัทให้สำนักงานทนายความยื่นหนังสือถึงผมว่าให้คืนเงิน 62500 บาทที่โอนมาให้ 2 ครั้งหลัง (รวมเป็นเงิน 125000 บาท) พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีภายใน 7 วัน (ผมใช้เงินหมดไปแล้ว) โดยระบุเหตุผลว่า ผมรับเงินจำนวนนี้ไว้โดยไม่สุจริตและปราศจากมูลเหตุที่จะอ้างกฎหมายได้ทำให้บริษัทเสียหาย
คำถามก็คือ
1.สิ่งที่ผมได้รับเป็นลาภมิควรได้หรือไม่ 2.ถ้าบริษ้ทเอาใบลาออกที่ผมเซ็นไว้มาอ้างว่าผมลาออกไปแล้ว และกลับมาทดลองงานใหม่ จะทำได้หรือไม่
3.ผมต้องคืนเงินรวมทั้งดอกเบี้ยให้กับบริษัทหรือไม่ 4.ทางออกที่ดีที่สุดของผมควรเป็นอย่างไร
5.ในกรณีที่ผมไม่ผิด ผมจะฟ้องกลับบริษัทในฐานะที่ทำให้ผมเสียหายได้หรือไม่
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ:
ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2548 ผมได้เช็คกับคนที่ทำภาษีเงินได้ให้กับพนักงาน ทางพนักงานที่ทำภาษีบอกว่าบริษัทแจ้งกับกรมสรรพากรว่าเงินเดือนผม 30000 บาท และผมได้รับคืนเงินภาษีด้วย อยากทราบว่าในกรณีนี้ผมจะโดนเรียกภาษีย้อนหลังหรือไม่ (บริษัทจะทำแบบนี้กับพนักงานทุกคน)
และผมทราบมาว่าบริษัทนี้มีหลายบัญชีมาก มีการหลบเลี่ยงภาษีมากมาย (มีทั้งบัญชี VAT และ NO VAT) ผมควรจะแจ้งกรมสรรพากรเพื่อให้ตรวจสอบหรือไม่ |