ขอเรียนถามปัญหาค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า..คุณพ่อของสามีดิฉันมีเมียหลวง(จดทะเบียนสมรส) 1 คน คือคุณแม่ของสามีดิฉัน และมีเมียน้อยอีก 2 คน (คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่)

เมียหลวง(แม่สามี) มีลูกด้วยกัน 4 คน แต่เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เหลือสามีดิฉันอายุ 44ปี และพี่สาว อายุ 47 ปี

เมียน้อยผู้พี่ มีลูก 3 คน  เมียน้อยผู้น้อง มีลูก 2 คน รวมแล้วเหลือลูกทั้งหมด 7 คน

มรดกบ้านและที่ดินเป็นชื่อคุณพ่อหมด แต่ที่ดินเป็นสมบัติที่คุณพ่อกับแม่(เมียหลวง)ร่วมกันสร้างขึ้นมา  หลังจากคุณพ่อมีเมียน้อย คุณแม่ก็ออกจากบ้านกลับมาอยู่บ้านพ่อ-แม่ตนเอง (ตั้งแต่สามีดิฉันอายุ 12ปีโดยไม่ส่งเสียเลี้ยงดูลูกอีกเลย)หลังจากนั้นก็พาเมียน้อยผู้น้องเข้ามาอยู่ในบ้านแทนคุณแม่

และเมื่อปลายปี่ที่แล้ว 2554 คุณพ่อสามีได้เขียนพินัยกรรมแบ่งมรดกให้ลูกทั้ง 7 คนเอาไว้มีพยาน 2 คน(เป็นน้องชายพ่อกับหลานชายพ่อ)  และเมื่อ 6 ก.พ.2555 คุณพ่อได้ทำการรังวัดที่ดินให้ลูกๆทั้ง 7 คน แต่ที่ดินยังไม้ได้ออกโฉนดเพราะต้องใช้เวลา ส่วนที่บ้าน+ที่ดินยกให้ลูกคนสุดท้อง(ลูกของเมียน้อยผู้น้อง) ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เลี้ยงดูคุณพ่อ(คุณแม่ไม่ได้สมบัติอะไรเลย แต่ต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คนมาจนโต)..แต่ดิฉันก็เห็นสามีดิฉันซื้อข้าวซื้อของให้คุณพ่อ พาคุณพ่อไปหาหมออยู่ตลอดเหมือนกัน

กรณีเช่นนี้เราควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้มรดกในส่วนที่คุณแม่เมียหลวงและลูกๆ อีก 2 คน ควรจะได้รับอย่างยุติธรรมก่อนที่โฉนดจะอกมา

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนี้ค่ะ

สามีภรรยานั้น ตราบใดที่ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือไปมีใหม่แล้ว ความเป็นสามีภรรยาก็ยังคงมีอยู่  ทรัพย์สินที่ร่วมกันหาได้มา ย่อมเป็นของสามีและภรรยาคนละครึ่ง  (เว้นแต่ในส่วนที่แต่ละคนมีมาก่อนสมรส หรือได้รับมรดกมาในระหว่างอยู่กินด้วยกัน) ทรัพย์สินส่วนของใคร ในระหว่างที่คนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เขาจะยกให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้ และเขาจะทำพินัยกรรมให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้เช่นกัน  แต่การยกทรัพย์ให้ใครหรือทำพินัยกรรมให้ใครนั้น ทำได้แต่เฉพาะทรัพย์ในส่วนของตน จะไปเที่ยวได้ยกทรัพย์ของคนอื่นให้ใครไม่ได้   ถ้าภรรยาหลวงยังมีชีวิตอยู่ และยังจดทะเบียนสมรสกันโดยไม่ได้หย่าขาด ทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างนี้ (ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ตาม) ก็ยังเป็นสิทธิของภรรยาหลวงครึ่งหนึ่ง