คุณพ่อ-คุณแม่มีเงินฝากในธนาคารเป็นบัญชีร่วมกันหลายบัญชี เงินฝากเหล่านี้เป็นเงินที่ได้มาในระหว่างที่ท่านได้สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ต่อมาคุณพ่อถึงแก่กรรม (ประมาณปลายปี2553) โดยที่ไม่
ได้ทําพินัยกรรม

ประมาณ 2 เดือนหลังจากนั้น  คุณแม่ได้ถอนเงินจากบัญชีร่วมมาใช้จ่ายประมาณ 1 ล้านบาท และในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ยังได้ถอนออก
ไปอีก 20ล้านเพื่อนําไปเข้าในบัญชีที่เปิดใหม่ที่เป็นชื่อของแม่คนเดียว
โดยให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารช่วยจัดการให้  ทั้งนี้ทั้งนั้นทางบ้าน
ยังไม่ได้ทําเรื่องขอให้คุณแม่หรือผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก

คุณแม่ทําทุกอย่างโดยไม่เคยพูดให้ดิฉันได้รับรู้  ดิฉันอยู่ต่างประเทศแต่ก็
โทรศัพท์ไปที่บ้านพูดคุยกับคุณแม่ทุกสัปดาห์  สาเหตุที่ดิฉันรู้ความ
เป็นไปทุกอย่างก็เพราะญาติสนิทที่พอจะรู้ความเป็นไปที่บ้านเล่าให้ฟัง 
คุณแม่เองก็ไม่เคยพูดให้ญาติผู้นี้รับรู้โดยตรง  แต่เนื่องจากได้เบาะแสมา
ก็เลยให้เพื่อนที่ธนาคารเช็คการเคลื่อนไหวของบัญชีให้

ต้องขออธิบายเพิ่มเติมว่าคุณแม่เริ่มมีความลำเอียงกับดิฉัน ท่านถือว่าดิฉัน
ไม่อยู่ใกล้ชิดท่านทั้งๆที่ดิฉันเป็นลูกคนโต  ดิฉันก็กลับไปเยี่ยมท่านทุกปีและโทรศัพท์คุยกับท่านทุกสัปดาห์ ส่วนน้องคนที่อยู่กับท่านนั้น คุณ
แม่ถือว่าเป็นคนใกล้ชิดที่ท่านสามารถฝากผีฝากไข้ได้ แต่ในความเป็นจริง
แล้ว น้องคนนี้ต้องพึ่งเรื่องการเงินจากคุณแม่ทุกอย่าง เธอไม่มีงานหลัก
ที่จะเป็นรายได้สำหรับเลี้ยงตัวได้ คนที่เธออยู่กินด้วยก็มาอาศัย
อย่ด้วยกันที่บ้าน เอาเด็กมาเลี้ยงคุณแม่ก็ออกค่าเลี้ยงดูให้ ที่เขาไป
หาเด็กมาเลี้ยงก็เพราะเขารู้ว่าคุณแม่อยากมีหลานมาก ลูกของดิฉันซึ่งเป็น
หลานแท้ๆก็อยู่ไกลกันทำให้คุณแม่ว้าเหว่ เรื่องการถอนเงินนี้เขา
ก็รู้เรื่องแต่คุณแม่กลับไม่เปิดเผยกับดิฉันเลย

คําถามของดิฉันคือ
1. การที่ผู้จัดการสาขาดําเนินการทุกอย่างโดยที่คุณแม่ยังไม่ได้เป็นผู้
จัดการมรดกเป็นการทําผิดกฏธนาคารหรือกฏหมายหรือไม่

2. ถึงแม้คุณแม่จะถือว่ามีสิทธ์อยู่ครึ่งหนึ่งในบัญชี การถอนเงินโดยท่ี
ยังไม่มีคําสั่งศาลแต่งตั้งให้แม่เป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิ่งผิดกฏหมาย
หรือผิดกฏใดๆหรือไม่

3. ดิฉันควรจะทำอย่างไรจึงจะให้ธนาคาร block เงินส่วน
ที่เหลือในบัญชีร่วมที่มีอยู่ทั้งหมดได้ (จริงๆแล้วพ่อกับแม่มีบัญชีร่วม
อื่นๆอีก ที่อยู่ต่างธนาคารก็มี แต่บัญชีที่ถูกถอนเงินออกไปนี้เป็น
บัญชีที่มีเงินมากที่สุด)

4. คำถามสุดท้ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดินซึ่งมีหลายแปลง ที่ดินเหล่านี้
เป็นที่ซึ่งคุณพ่อได้มาจากคุณปู่ ทั้งคุณปู่คุณย่าเสียชีวิตตั้งแต่
คุณพ่อยังเด็กมาก แต่เดิมที่ดินเหล่ามีชื่อร่วมของ 2 คนคือคุณพ่อกับพี่ชาย
ของท่าน ต่อมาหลังจากที่คุณพ่อแต่งงานกับคุณแม่แล้ว คุณพ่อกับพี่ชายก็
ตกลงแบ่งที่ดินกัน ส่วนที่ตกลงเป็นของคุณพ่อก็เปลี่ยนเป็นใส่ชื่อของพ่อ
คนเดียว ดิฉันต้องการทราบว่า ที่ดินเหล่านี้คุณแม่มีกรรมสิทธ์ร่วมอยู่ด้วย
หรือไม่เพราะการเปลี่ยนมาเป็นชื่อคุณพ่อคนเดียวนั้นมาทำหลังจากแต่งงานแล้ว

ดิฉันอยากให้การจัดการเกี่ยวกับมรดกของคุณพ่อ
เป็นไปอย่างถูกต้องและเปิดเผยให้ลูกรับรู้เหมือนๆกัน ดิฉันเสียใจมากที่
แม่กลายเป็นคนลำเอียงทั้งๆที่ดิฉันไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้
ครอบครัว สิ่งเดียวที่แม่ไม่พอใจก็คือดิฉันไม่ได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดท่าน

ขอกราบขอบคุณท่านล่วงหน้าที่สละเวลาอ่านเรื่องราวและช่วยตอบคำถามค่ะ

1. ถ้าบัญชีนั้นเปิดโดยมีเงื่อนไขว่า ใครคนใดคนหนึ่งถอนได้ ผู้จัดการก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะเป็นอำนาจของคุณแม่ของคุณที่จะถอนเงินได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว

2. ไม่ผิด

3.  ถ้าบัญชีนั้นแม่มีอำนาจถอนได้เอง ธนาคารก็ไปบล๊อคไม่ได้

4. ที่ดินนั้นก็ยังคงเป็นสินส่วนตัวของพ่อ ซึ่งจะตกได้แก่แม่และลูก ๆ คนละเท่า ๆ กัน

   ก็ควรพูดกับแม่ตรงไปตรงมาอย่างนอบน้อม ในส่วนที่เป็นของท่านก็อย่าไปยุ่งกับท่าน ๆ จะยกให้ใครมากน้อยอย่างไรก็เป็นสิทธิของท่าน  ส่วนที่เป็นของคุณ ๆ ก็รับมาตามสิทธิ