กระผมโดนธนาคารแห่งหนี่งฟ้องครับ เขาฟ้องให้กระผมใช้หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสดของภรรยาที่ตายไปแล้วครับ ฟ้องในฐานะที่กระผมเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตาย ยอดฟ้องก็ประมาณ 100,000 บาท ซึ่งหากกระผมมีเงินก็คงไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะถึงแม้กระผมจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยแต่ก็เต็มใจที่จะใช้แทนให้เพราะไม่อยากให้ภรรยาต้องมีหนี้สินติดตัวไป ( เป็นหนี้หลายแห่ง เคลียร์ไปให้หลายที่แล้ว ) แต่ที่มันเป็นปัญหาก็เพราะตอนนี้กระผมไม่มีเงินครับ ภรรยาเองก็ไม่ได้มีทรัพย์มรดกอะไรทิ้งเอาไว้ให้ด้วย เมื่อเป็นดังนี้ต่อไปเขาก็คงต้องมายึดทรัพย์บังคับคดีที่บ้านกระผม หากเป็นบ้านที่กระผมมาปลูกสร้างใหม่อยู่กับภรรยาก็ไม่กลัวเท่าไรหรอกครับเพราะทำใจเอาไว้แล้ว ( บ้านหลังที่ว่านี้กระผมมาปลูกสร้างอยู่บนที่ดินซึ่งพ่อตาเป็นเจ้าของ มีภรรยากระผมเป็นเจ้าบ้าน ) และที่ไม่กลัวก็เพราะว่ามันไม่มีทรัพย์สินอะไรที่จะให้ยึดด้วย ก็เหลือเพียงบ้านซึ่งไม่รู้ว่าหากทอดตลาดจะขายได้หรือเปล่าเพราะมันไม่มีที่ดิน และเมื่อเขายึดทรัพย์บังคับบ้านหลังนี้ไม่ได้ กระผมจึงกลัวว่าเขาจะมายึดทรัพย์ยึดบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งกระผมมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน ( บ้านหลังนี้เป็นบ้านพ่อแม่ซึ่งยกให้กับน้องชายกระผม กระผมมีเพียงชื่อเป็นเจ้าบ้านเท่านั้น และกระผมก็ไม่ได้อาศัยอยู่มานานแล้วด้วย ทรัพย์สินในบ้านก็เป็นของน้องชายทั้งหมด ) กระผมจึงอยากจะเรียนถามว่า เมื่อเป้นดังนี้ หากเขาไม่สามารถที่จะยึดทรัพย์หรือบังคับขายบ้านที่ภรรยาของกระผมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านได้ เขามีสิทธิที่จะมายึดทรัพย์บังคับคดีเอากับบ้านน้องชายซึ่งกระผมมีชื่อเป็นเจ้าบ้านอยู่ได้หรือไม่ กระผมกลัวว่าน้องชายจะต้องมาเดือดร้อนไปด้วย และหากกระผมจะย้ายชื่อออกมาในตอนนี้จะได้หรือไม่ครับจะมีผลอะไรหรือไม่ และหากมีการบังคับคดีเขาจะไปยุ่งเกี่ยวกับบ้านน้องชายที่กระผมย้ายออกมาแล้วได้หรือไม่ครับเพราะตอนนี้เขายื่นฟ้องแล้ว ในคำฟ้องก็ระบุว่ากระผมกับภรรยาอยู่บ้านคนละหลังกันครับ