การยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก
กราบเรียนอาจารย์มีชัยครับ
ผมขอปรึกษาเรื่องขอยื่นเป็นผู้จัดการมรดก โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลครับแต่ก่อนอื่นขอเล่าที่มาของเรื่องก่อนครับ
คุณพ่อได้แต่งงานกับคุณแม่ผมจดทะเบียนสมรสกันโดยมีบุตรคือผม 1 คน หลังจากนั้นเมื่อคุณพ่อได้ย้ายไปทำงานที่กาญจนบุรีได้ 5-10ปีก็ทราบข่าวว่าคุณพ่อมีภรรยาอีกคนและมีบุตรด้วยกัน1 คนตอนนี้อายุ18ปี โดยคุณพ่อได้จดรับรองบุตรเด็กคนนี้คุณพ่อกับคุณแม่แยกกันอยู่มานานกว่า20ปี แต่ก็ยังมีโทรติดต่อกันแต่ก็นานๆครั้ง
มีอยู่ช่วง4-5ปีที่ผ่านมาคุณพ่อมาทวงเงิน1 ล้านบาทที่ให้ผมมาซื้อรถโดยบอกว่าผมเป็นคนยืมคุณพ่อไป แต่ก็มีพยานคือพี่น้องของพ่อยืนยันได้ว่าคุณพ่อเป็นคนยกให้ มิได้เป็นการขอยืมแต่อย่างใด ซึ่งก่อนคุณพ่อจะเสียชีวิตเดือนตุลาคม 2553 ทางผมได้ส่งเงินให้คุณพ่อใช้ตลอดแต่มีหลักฐานการโอนเงินให้เพียงแค่2-3ปีให้หลังก่อนพ่อเสียชีวิต ทางคุณพ่อมีทรัพย์สินที่เป็นหุ้นสหกรณ์โดยระบุในหุ้นให้ผมกับคุณแม่เป็นผู้รับผลประโยชน์ และท่านก็มีที่ดินที่ต่างจังหวัดอยู่3 แปลง ประมาณ40ไร่ ซึ่งคุณพ่อเคยพาคุณแม่และคุณอาไปดูที่ช่วงที่คุณพ่อไปซื้อทางผมได้ให้คุณอาเป็นคนกลางเจรจาให้ทางภรรยาใหม่ของพ่อกางโฉนดที่มีโดยทางเราก็จะแบ่งให้ตามกฎหมาย แต่ทางภรรยาใหม่ไม่ให้ความร่วมมือผมจึงขอยื่นเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลจะเบิกความไต่สวนวันที่ 7กุมภาพันธ์2554 แต่ทางทนายของผมแจ้งมาว่ามีทนายของภรรยาใหม่จะยื่นคัดค้านโดยมาคัดสำนวนการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกของผม
ผมขอสอบถามสิ่งที่ผมสงสัยและมีความเป็นไปได้หรือไม่นะครับ
1.คุณพ่อได้ยกที่ดินที่ผมอยู่ณ ปัจจุบันเป็นชื่อของผมมานานกว่า10ปีแล้ว ลูกที่จดรับรองบุตรสามารถฟ้องขอส่วนแบ่งได้หรือไม่ครับ
2.ถ้าทางภรรยาใหม่พ่อขอเป็นผู้จัดการร่วมแทนลูกที่อายุไม่ถึง20ปี สามารถทำได้ไม๊ครับและมีสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ดินต่างจังหวัดนั้นหรือไม่
3. ทางภรรยาใหม่ของพ่อสามารถร้องขอการแบ่งที่ดินนั้นโดยอ้างว่าได้มาร่วมกันช่วงที่อยู่กับคุณพ่อได้หรือไม่ครับ
4. ตามกฎหมายการแบ่งที่ดินโดยลำดับทายาทที่ถูกต้อง ต้องคิดอย่างไรครับ
5. ถ้ามีการเจรจากันทางภรรยาใหม่ของพ่อมีสิทธ์ที่จะฟ้องให้ยกที่ดินที่ต่างจังหวัดเป็นของตนและลูกตนเองได้หรือไม่ครับ
ขอบพระคุณค่ะ
พิทักษ์
|