ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040967 แจ้งความคดีอาญาได้หรือไม่แพม8 กรกฎาคม 2553

    คำถาม
    แจ้งความคดีอาญาได้หรือไม่

    กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ ดิฉันมีปัญหาอยากเรียนถามเรื่องทรัพย์มรดกดังนี้

    ดิฉันอยู่กินกับสามีทหารเรือโดยจดทะเบียนสมรสช่วงปี29-39 มีลูกชาย 1 คนตอนนี้อายุย่าง 23 ปี ขณะที่อยู่ด้วยกันได้ช่วยกันซื้อที่ดินจัดสรรของทหารเรือไว้แปลงหนึ่ง เนื้อที่ 100 ตรว โดยดิฉันเป็นคนผ่อนส่งเพราะสามีไปชายแดนเป็นส่วนใหญ่ โฉนดเป็นชื่อสามี ตอนหย่าปี 39ไม่ได้สลักหลังทะเบียนหย่าเพราะเขาขู่เอาไว้ว่าจะฆ่าให้ตายถ้าจะเรียกร้องเอาอะไร 1วันก่อนหย่าดิฉันไปสถานีตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เพราะสามีเอาปืนออกมายิงขึ้นฟ้าบังคับให้ดิฉันออกจากรถเพราะดิฉันกลับบ้านดึก เนื่องจากไปงานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อน ตอนที่เขายิงนั้นลูกชายอายุ 8 ขวบนั่งอยู่ข้างๆดิฉัน ดิฉันต้องรีบออกมาให้ห่างจากลูกเพราะกลัวว่าลูกอาจจะโดนลูกหลงถ้าเข้าเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา นั่นเป็นเหตุก่ารณ์เมื่อ 14 ปีที่ผ่านไปแล้ว

    หลังหย่าสามีจดทะเบียนสมรสและหย่าแล้วกับหญิงอีกคนหนึ่ง และเมื่อต้นปีนี้ก็จดทะเบียนสมรสอีกครั้งหนึ่งกับภรรยาคนล่าสุด 3 เดือนก่อนตายเมื่อเดือนที่แล้วหลังจากอยู่กินกันประมาณ 2 ปีก่อนหน้านั้น

    ภรรยาคนล่าสุดของอตีตสามีบอกว่าจะไม่คุยเรื่องทรัพย์สินจนกว่า 1) ทายาททุกคนจะช่วยกันใช้หนี้ที่ทั้งสองร่วมกันทำขึ้นมา (หนี้สินนั้นทายาทคนอื่นๆไม่เคยมีส่วนรู้เห็นใดๆ) แล้วยังบอกอีกว่าได้เอาโฉนดที่ดินไปจำนองไว้กับญาติ ดิฉันถามหาเอกสารจดจำนองก็บอกว่าไม่มีเป็นการจำนองปากเปล่าโดยเอาโฉนดที่ดินค้ำประกัน และ 2) จะไม่ตกลงอะไรเกี่ยวกับทรัพย์มรดกก่อนทำบุญ 100 วัน ( 26 ก.ย 53)

    ไม่มีใครเชื่อว่าภรรยาคนสุดท้ายของอตีตสามีมีเจตนาบริสุทธิ์ที่จะแบ่งทรัพย์มรดกอันได้แก่ ที่ดิน 100 ตรว. รถยนต์ 2 คัน ทองรูปพรรณ และพระเครื่องจำนวนมาก รวมทั้งสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ทรัพย์มรดกเหล่านี้อตีตสามีได้มาก่อนจดทะเบียนกับภรรยาคนสุดท้ายทั้งสิ้น ดิฉันอยากเรียนถามว่า

    1 จะแจ้งความคดีอาญาภรรยาคนสุดท้ายของอดีตสามีว่า มีเจตนาเคลื่อนย้าย ปกปิด เบียดบังทรัพย์มรดกได้หรือไม่

    2 จะแจ้งความข้อหากรรโชกทรัพย์ได้หรือไม่ ในกรณีที่ภรรยาคนสุดท้ายของอดีตสามีบอกว่าจะไม่คุยเรื่องทรัพย์สินถ้าทายาทไม่ช่วยกันใช้หนี้สินของผู้ตายกับตนก่อน

    3 ภรรยาคนสุดท้ยจะโดนตัดสิทธิ์จากกองมรดกไหมถ้าความผิดมีมูล

    4 ก่อนตายอดีตสามีกับภรรยาคนสุดท้ายพักอาศัยในบ้านพักที่ทางราชการจัดให้ พอหลังตายสิทธิการพักอาศัยจะหมดในอีก 3 เดือนข้างหน้า ภรรยาคนสุดท้ายเป็นคนบุรีรัมย์ ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เหตุเกิดที่สัตหีบ ทายาทจะใช้สิทธิ์จัดผู้จัดการมรดกเพื่อจัดการแบ่งทรัพย์มรดกก่อนที่ภรรยาคนสุดท้ายจะย้ายไปที่อื่นได้หรือไม่

    5 ดิฉันจะเป็นผู้จัดการมรดกได้ไหม

    ทายาทของผู้ตายประกอบด้วย แม่ ลูกสาว 1 คนกับภรรยาคนที่ 1  ลูกชาย 1 คน กับภรรยาคนที่ 2 คือดิฉัน และ ภรรยาคนสุดท้าย (ภรรยาคนที่ 3 ไม่ได้มีบุตรด้วยกัน ไม่มีปัญหาหลังหย่า)

    ดิฉันอยากรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปแล้วจะได้เอาไปบอกลูก อาจารย์ช่วยชี้แนะอย่างละเอียดด้วยค่ะ

    กราบขอบพระคุณอย่างสูง....แพม

     

     

     

     

     

     

     

     

    คำตอบ

    1. ก็ถ้าเขายังไม่ได้ทำอย่างนั้น จะไปแจ้งความเขาได้อย่างไรล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นแจ้งความเท็จ

    2. การที่เขาพูดอย่างนั้นไม่ได้แปลว่าเขากรรโชก เพราะที่จริงก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คือ ทรัพย์สินที่เป็นของผู้ตาย ก็ต้องนำไปชำระหนี้ที่มีอยู่เสียก่อน เหลือเท่าไรจึงจะนำมาแบ่งเป็นมรดกให้กับทายาท

    3. ถ้าเขายักย้ายมรดกจริง ก็อาจถูกตัดสิทธิจากมรดกเท่าจำนวนที่เขายักย้าย  แต่การนำมรดกไปชำระหนี้ไม่ถือว่าเป็นการยักย้าย

    4. ถ้ามีทรัพย์สินที่จะต้องแบ่งและโอนกัน ก็ต้องไปร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก เพื่อจะได้รวบรวมทรัพย์สินที่เป็นมรดกมาชำระหนี้และแบ่งปันให้แก่ทายาท

         ก่อนจะทำอะไร ลองศึกษาเสียก่อนว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมไว้หรือไม่  มีหนี้เท่าไร และมีทรัพย์สินเท่าไร พอกับการชำระหนี้หรือไม่ ถ้ามีหนี้มากกว่าทรัพย์สิน ก็อย่าไปยุ่งให้เดือดร้อนต้องไปชำระหนี้แทนเลย


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    8 กรกฎาคม 2553