ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    040434 มรดกวิน สุขคํา1 มิถุนายน 2553

    คำถาม
    มรดก

    สวัสดีครับท่านอาจารย์มีชัยตอนนี้ผมอายุ 23 ปีครับ มีปัญหาร้อนใจครับ อยากให้ท่านอาจารย์มีชัยช่วยตอบคำถามผมหน่อยครับ คือว่า คุณยายของผมมีที่ดินที่สุขุมวิทประมาณ 175 ตารางวา คุณตาเสียแล้ว โดยมีลูก 3 คน คนโตเป็นแม่ของผมและมีลูก 2 คน คือผมกับพี่ชาย แล้วแม่ของผมก็เสียเมื่อปี 2542 ส่วนยายก็เสียตามไปไม่กี่เดือนครับ ก็เหลือน้าผมอีกสองคน โดยน้าผู้หญิงเป็นคนกลาง น้าผู้ชายเป็นคนเล็กสุดครับ

    เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2551 น้าผู้หญิงโทรมาให้ผมกับพี่ชายไปย้ายทะเบียนบ้าน ผมกับพี่ชายก็ไปย้ายทะเบียนบ้านตามที่น้าผมบอกครับ แต่น้าผมเขาไม่ได้พูดเรื่องขายที่ดินเลยครับ

    ต่อมาเดือนธันวาคมปี 2551 ผมได้โทรไปหาน้าผู้หญิงครับ น้าเขาบอกจะส่งผมกับพี่ชายเรียนต่อปริญญาโท แล้วผมบอกน้าเขาว่าผมกับพี่ชายอยากได้รถยนต์เป็นของขวัญเรียนจบปริญญาตรีครับ น้าผมบอกจะโอนเงินให้จำนวน 400,000 บาท โดยเป็นเงินส่วนตัวของน้าครับ และผมได้เอาเงินจำนวนนี้ไปแบ่งกับพี่ชายผมคนละ200,000 บาท

    ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2552 น้าผู้หญิงได้โอนเงินค่าเรียนปริญญาโทมาให้จำนวน 180,000 บาทโดยเป็นเงินส่วนตัวของน้าครับ

    จนประมาณเดือนสิงหาคม 2552 ผมไปบ้านคุณยายมา ผมถึงได้รู้ว่าบ้านได้ถูกขายไปแล้ว ผมจึงได้โทรไปถามน้าผู้หญิงว่า บ้านยายทำไมเป็นตึกไปแล้ว น้าผมบอกว่าให้เขาสร้างไปเถอะไม่เป็นไหร่หรอก ผมเลยถามน้าว่าขายบ้านไปแล้วใช่ไหม น้าบอกว่าขายไปแล้วเป็นเงิน 15 ล้านบาทบ้าง 20 ล้านบาทบ้าง 24 ล้านบาทบ้าง จนสุดท้ายจบที่ 24 ล้านบาทครับ โดยที่ผมไม่รู้จำนวนยอดที่แท้จริงครับ

    น้าผู้หญิงไม่ยอมให้เงินผมครับ จนสุดท้ายมีปากเสียงทะเลาะกัน น้าผมบอกว่าจะโอนเงินให้ 5 ล้านบาท พอเช้าวันรุ้งขึ้นน้าผมบอกว่าโอนให้ไม่ได้ได้แค่ 3 ล้านบาท คุยกันไปคุยกันมาเป็น 4 ล้านบาท ตกลงจบที่ 4 ล้านบาท น้าผู้หญิงบอกว่าเงินส่วนที่เหลือให้ไปเอากับน้าผู้ชาย สรุปผมได้เงิน 4 ล้านบาท

    เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2553 ผมได้โทรไปเอาเงินส่วนที่เหลือกับน้าผู้ชาย แต่น้าผู้ชายเขาบอกว่าถ้าอยากได้เงินก็ไปฟ้องศาลก็แล้วกัน เขาบอกว่าเขามีหลักฐานเป็นเทปบันทึกเสียง ว่าเราเอาแค่ 4 ล้านบาท

    ผมควรจะทำอย่างไรดีครับอาจารย์ ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายเลยครับ อาจารย์ช่วยหาทางออกให้ผมด้วยครับ ด้วยความนับถือและขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ

    น้าผมสองคนเป็นผู้จัดการมรดกครับ โดยผมไม่ได้รับรู้เรื่องเกี่ยวกับการจัดการมรดกเลยครับ

    เรื่องเทปบันทึกเสียง จะมีน้ำหนักพอที่ผมจะแพ้ไหมครับ แต่ผมไม่ได้มีลายลักษณ์อักษรในการรับเงินแต่อย่างใด

     

     

    คำตอบ
    สมมุติว่าที่ดินนั้นขายได้ 24 ล้าน   และถ้าที่ดินนั้นเป็นสินสมรส จำนวนเงิน ๒๔ ล้านนั้น จะแบ่งกันระหว่างตากับยายคนละ ๑๒ ล้าน  เงิน ๑๒ ล้านของตา จะเป็นมรดกได้แก่ยายและลูก ๓ คน (รวมทั้งแม่คุณ) คนละ ๓ ล้าน  ตกลงยายจะได้ส่วนแบ่ง ๑๕ ล้าน แม่คุณและน้าทั้งสองคนได้คนละ ๓ ล้าน เมื่อยายตาย เงิน ๑๕ ล้านของยาย จะตกได้แก่แม่คุณกับน้าสองคน คนละ ๕ ล้าน รวมความว่าจะได้กันคนละ ๘ ล้าน เงิน ๘ ล้านนั้นเมื่อคุณตาย คุณสองคนพี่น้องก็จะเข้ารับมรดกแทนที่ ได้คนละ ๔ ล้าน  ถ้าคุณได้มา ๔ ล้านแล้ว ก็ถูกต้องแล้ว  ส่วนของพี่ชายคุณก็คงต้องไปฟ้องร้องเอาจากน้าทั้งสองคนที่เป็นผู้จัดการมรดกต่อไป
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    1 มิถุนายน 2553