เรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ
ดิฉันขอรพกวนรียนถามอาจารย์ เรื่องมีอยู่ว่าอดีดสามีของดิฉันซึ่งมีลูกด้วยกัน1คนเป็นชายซึ่งพิการเนื่องจากคลอดยากสมองขาดอ๊อกซิเจนตอนคลอดจึงทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเกร็ง ดิฉันจดทะเบียนปี2533 มีลูก2537 หย่า2541ลูกอยู่ในปกครองของดิฉัน พ่อเขายกที่ดินให้ปี2535สร้างบ้านเสร็จปี2537 ตอนนี้พ่อของลูกเขาเสียชีวิตแล้วเมื่อ9 ม.ค.52 ด้วยโรคมะเร็ง เขาทำงานราชการเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ภรรยาใหม่ของเขายื่นขอรับเงินจากหน่วยงานคนเดียวให้การเท็จว่าไม่มีลูกพอดิฉันทราบก็ไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมเขาไม่พอใจเขาอ้างจะเอามาใช้หนี้ ดิฉันค้านว่าหนี้ไม่ได้ส่งมาเลี้ยงลูก เขาไปขอรับมรดกที่ดินอีกแต่เจ้าหน้าที่ให้ยื่นต่อศาลแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกก่อนดิฉันได้รับหมายศาลก็ไปคัดค้านและขอร่วม ตอนนี้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการร่วมกันแต่ยังรับมรดกไม่ได้เพราะโฉนดติดจำนองธนาคารออมสิน เขากู้ร่วมกันเมื่อปี2550 จำนวน500,000บาทเขากู้มาทำรั้วและซ่อมบ้านประมาณครึ่งหนึ่ง ที่เหลือซื้อรถและใช้จ่ายในครอบครัวเขา ภรรยาใหม่ของเขาเป็นข้าราชเหมือนกันพอสามีตายออมสินก็หักเงินเดือนภรรยาแทนในฐานะผู้กู้ร่วม เขาเลยเรียกร้องให้ลูกร่วมใช้หนี้เพราะลูกมีสิทธิรับมรดกด้วย ดิฉันสอบถามออมสินแล้วเขาบอกหนี้ไม่เกี่ยวกับลูก มีหนี้ธนาคารกรุงไทยอีก200,000บาท ภรรยาเขาจ่ายไปแล้วและให้ช่วยค่าทำศพด้วยเขาอ้างค่าทำศพทั้งหมด435,000บาท จากรายละเอียดทั้งหมดดิฉันขอถามว่า (1) ลูกต้องร่วมใช้หนี้ไหม? (2) ถ้าจำเป็นต้องช่วยสมควรช่วยกี่เปอร์เซ็นของหนี้ทั้หมดหรือต้องจัดการอย่างไรกับปัญหา ขอความเห็นด้วยค่ะ
ขอขอบคุณค่ะ
ส่งศรี
ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่า เขาโอนที่ดินให้ลูกนั้น เขาได้โอนทางทะเบียนเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ถ้าโอนเรียบร้อยแล้ว ที่ดินนั้นก็ไม่ใช่มรดก ส่วนบ้านนั้นถ้าเขาสร้างให้ลูก ก็เป็นการให้โดยเสน่หา ไม่ใช่มรดกอีกเช่นกัน ลูกจึงไม่ต้องร่วมรับผิดชอบในหนี้ของบิดา
ข้อเท็จจริงที่เล่ามาไม่ค่อยชัดเจน จึงตอบได้เพียงเท่านี้