เรียนอาจารย์มีชัย ที่เคารพ
เรื่องมีอยู่ว่า ตากับยายมีที่นาประมาณ 25 ไร่ มีลูกชายหญิง 7 คน และยายได้โอนที่นาทั้งหมดเป็นชื่อของลูกสาวคนเล็ก (น้าจิต) ก่อนที่ตากับยายจะเสียชีวิต และน้าจิตได้สัญญาต่อพี่ๆ น้องๆ ว่าจะไม่โกง และจะโอนที่นาแบ่งให้พี่น้องในภายหลัง ซึ่งพี่น้องก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะความไว้วางใจกัน
ที่นาก็แบ่งกันคนละ 3 ไร่บ้าง 4 ไร่บ้าง และน้าจิตได้ขายที่นาของตนและของพี่ชายน้าจิตไปประมาณ 12 ไร่ และเหลือที่ของตน 3 ไร่ ในปีนี้ น้าๆ ทุกคนก็ทำไร่ในส่วนที่เป็นของตนเองคนละ 3 ไร่ และพอเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ น้าทัย (สามีน้าจิต) ก็ทำการขึงลวดในที่นาของน้า ๆ ทุกคน และบอกว่าปีหน้าจะไม่ให้ทำอีก น้าทัยบอกว่าที่นาเป็นของน้าจิตคนเดียว ทุกคนไม่มีสิทธิ์ พี่ๆ น้องๆ ของน้าจิตก็เลยไปถามกับน้าจิต ทั้งที่เมื่อก่อนนั้น น้าจิตพูดเองว่าจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้พี่น้องทุกคน แต่ตอนนี้น้าจิตแกเปลียนใจไม่ให้
ที่นาที่แม่ดิฉัน (พี่สาวของน้าจิต) และน้าคนอื่นทำนั้น ทุกคนทำนามาเกือบ 30 กว่าปีแล้ว เท่าๆ อายุของดิฉันเลย และที่นาที่ทำก็เป็นที่นาที่เป็นมรดกของตากับยาย ในขณะนี้น้าๆ ทุกคน (พี่ๆ ของน้าจิต) ได้ปรึกษากันว่าควรจะทำอย่างไร บางคนก็ให้ไปปรึกษาทนาย และชาวบ้านที่ได้ทราบข่าว พวกเขาก็พร้อมที่จะเป็นพยานให้กับน้าๆ ดิฉัน ดิฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร รบกวนด้วยนะค่ะ ขอแบบละเอียดนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
การที่ตากับยายโอนที่ดินทั้งหมดให้กับลูกคนเล็กก่อนที่ตากับยายจะเสียชีวิต การโอนนั้นจึงเป็นการยกให้ และที่ดินนั้นทั้งหมดก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกคนเล็กทั้งหมด การที่พี่น้องคนอื่น ๆ ยังทำกินในที่นาโดยเข้าใจว่าตนมีกรรมสิทธิในที่ดินนั้น ถ้าได้ทำกินติดต่อกันมาเป็นเวลาถึง 10 ปี นับแต่วันที่ตากับยายโอนให้ลูกคนเล็ก ก็อาจต่อสู้ในเรื่องการครอบครองปรปักษ์ได้ อย่างไรก็ตามถ้าตอนที่ตากับยายโอนให้ลูกคนเล็กนั้น ถ้ามีหลักฐานว่าเป็นการโอนมาให้ในฐานะเป็นตัวแทนของลูกคนอื่น ๆ ลูกคนอื่นก็อาจเรียกร้องสิทธิได้ ควรปรึกษาทนายความดู