ผมได้ให้เพื่อนยืมเงิน 3แสนบาท เพื่อนบอกว่าจะเอามาคืนให้ ได้ทำสัญญาเงินกู้ ระบุจำนวนเงินและอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี มีลายมือชื่อผู้กู้และผู้ให้กู้เรียบร้อย และมีพยานเซ็นต์รับทราบอีก 2 คน  เมื่อครบกำหนดแล้ว เพื่อนผมไม่ยอมจ่ายเงินคืน ท้าให้ไปฟ้องร้องเอาเอง ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ

1.      ไม่ทราบว่าถ้าผมจะฟ้องร้องต่อศาล ผมจะสามารถชนะคดีหรือไม่

2.     ตอนทำสัญญาได้วางสำเนาโฉนดที่ดิน 1 แปลง ซึ่งตอนที่ทำสัญญาเงินกู้ยังเป็นชื่อของเขาและยังไม่ได้มีการถ่ายโอนใด ๆ ทั้งสิ้น ในสัญญาระบุวันคืนคือวันที่ 30 ก.ย 48  แต่ผมทราบตอนหลังว่า เขาเอาโฉนดดังกล่าวไปค้ำประกันการจำนองเงินกู้รายอื่นไว้ จำนวน 150,000 วันที่ 26 ก.ย. ถ้าผมฟ้องศาลแล้วให้ศาลยึดทรัพย์โฉนดดังกล่าวได้หรือไม่  เพราะเขาบอกผมว่าจะนำโฉนดไปทำการประเมินราคาทรัพย์สิน ผมจึงให้เขาไปและถ้ายึดทรัพย์ เจ้าหนี้คนดังกล่าวจะเข้ามาเฉลี่ยหนี้ด้วยหรือไม่ ผมกับเจ้าหนี้ใครมาก่อนกัน

3. และเขายังได้ค้ำประกันด้วย สำเนาโฉนดที่ดินพร้อมบ้าน อีก 1 หลัง  ที่กำลังผ่อนธนาคารอยู่ เพิ่งผ่อนได้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ ผม สามารถให้ศาลยึดทรัพย์บ้านหลังนี้ได้หรือไม่ ครับ แต่บ้านหลังนี้ เป็น 2 ชื่อ คือเขาและภรรยา ซึ่งตอนนี้หย่ากันแล้ว ผมมีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้หรือไม่ บ้านราคาประมาณ 450,000 กู้ธนาคาร 400,000 บาท ผ่อน 20 ปี

4.   ผมทราบว่าเพื่อนผมมีกรมธรรม์ที่พ่อเขาทำไว้ให้เป็น กรมธรรม์แบบออมทรัพย์ จะครบกำหนด เดือน 7/2549  นี้ ระบุผู้รับผลประโยชน์ คือเพื่อนผม   ผมสามารถให้ศาลสั่งยึดกรมธรรม์ฉบับนี้ได้หรือไม่  จำนวนเงิน 150,000 บาท

.      ผมกลุ้มใจมาก เพราะเป็นเงินก้อนแรกและก้อนเดียวที่ผมเก็บสะสมไว้เป็น 10 ปี รบกวนท่านช่วยตอบปัญหาผมด้วยนะครับ และกรุณาชี้แนวทางให้ผมด้วยว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป จึงจะได้เงินต้นคืน ผมต้องการแต่เงินต้นของผมคืนเท่านั้น ขอบคุณครับ

      เมื่อมีหนังสือสัญญากู้ยืมเงินกันถูกต้อง หากลูกหนี้ผิดนัดไม่ยอมชำระหนี้ ก็สามารถฟ้องร้องบังคับให้ชำระหนี้หรือยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ได้  และในการฟ้องร้องนั้นก็คงต้องไปหาทนายความ เมื่อจะต้องไปหาทนายความแล้วทนายความคงจะตอบข้อข้องใจทั้งหมดให้ได้ ซึ่งจะถูกต้องมากกว่ามาถามทางนี้ เพราะทนายความเขาจะซักข้อเท็จจริงได้ละเอียดกว่า