เรียนคุณมีชัย ที่นับถือ

ก่อนจะเรียนถามผมอยากให้รายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้นะครับ พ่อของเพื่อนผมไปมีเมียน้อยและขอหย่ากับภรรยา ท้านสุดภรรยาก็ยอมหย่าให้ แต่หลังหย่าร้างแล้วและจดทะเบียนกับเมียน้อยคนดังกล่าว ก็ไปๆมาๆ 2 บ้านและเหมือนจะห่างเหินกับเมียน้อยดังกล่าว เมียน้อยคนดังกล่าวมาโวยวายหลายครั้ง เมียหลวง(เดิม) ก็บอกไปว่าตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว และให้จัดการกันเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง เมียน้อยบุกมาที่บ้านเมียหลวง เพื่อตามสามีกลับบ้าน ทะเลาะมีปากเสียงกัน และเมียน้อยดังกล่วพาปืนมาด้วย พร้อมมีการขู่ยิงกัน และเกิดการยื้อแย่งปืนกัน ประจวบเหมาะกับเวลาที่เมียหลวงกลับจากที่ทำงาน พอย่างเข้าบ้านก็โดนกระสุน และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพื่อนผมซึ่งอยู่บนห้องลงมาพอจะถึงก็ได้ยินเสียงปืนลั่น พร้อมร่างแม่ที่ทรุดลง แต่ไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยละเอียด

ญาติฝ่ายเมียหลวงมีการแจ้งความดำเนินคดีฆ่าคนตาย เพราะเข้าใจเจตนาที่เห็นชัดเจนมาตลอดจากเมียน้อยว่าหวังในทรัพย์สิน และมีเจจตนาที่จะฆ่าเมียหลวง ขณะที่ฝ่ายสามี (ด้วยความหลงเมียน้อย) แก้ต่างให้ว่าเป็นเหตุปืนลั่น ผมอยากเรียนถามดังนี้นะครับ

1. กรณีการอ้างเหตุปืนลั่น โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์แน่ชัดเพียงคนเดียว จะทำให้เมียน้อยหลุดจากคดีได้ไหม

2. ถ้าข้อ 1. เป็นไปได้ มีโอกาสไหมที่จะหักล้าง ว่าพยายานรายเดียวดังกล่าว (สามี) ให้การด้วยความลุ่มหลง หรือทำการพิสูจน์เจตนาของฝ่ายเมียน้อย

3. หากเปลี่ยนรูปคดีจากการฆ่าคนตาย (โดยเจตนา) เป็นทำการอันประมาทเป็นเหตุให้บุคลคลอื่นถึงแก่ชีวิต มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่คนผิด จะมีโอกาสถูกพิพากษาให้รับผิด

4. เมียน้อยดังกล่าวรับราชการ (ทหาร) หากมีการพิพากษาว่าผิดจะพ้นจากราชการหรือไม่

5. หากเปลี่ยนรูปคดีตามข้อ 3. มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ฝ่ายสามีจะติดเป็นผู้ต้องหาในคดีด้วย

ผมเรียนถามเพื่อขอแนวคิดกว้างๆ ครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจของเพื่อนและญาติ (ทราบว่าบ่อยครั้งไม่มีคำชี้ขาดที่เป็นเส้นตายตัว) เพราะ ณ ขณะนี้เพื่อนยังเรียนอยู่ปี 4 ยังไม่มีงานและไม่มีผู้อุปการะ พ่อไม่ได้ส่งเสีย และกำลังบีบคั้นเพื่อกลับเข้ามาอยู่ในบ้าน (หลังที่มีเหตุ) พร้อมเมียน้อย ซึ่งเป็นไปตามคำยุยงของเมียน้อย

นับถือ

กาเหว่า

เรียน กาเหว่า

     ถ้าให้เจ้าตัวเขาถามมาเอง บางทีอาจจะได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและพอเข้าใจได้มากกว่านี้ดีกว่ากระมัง