อาจารย์ครับ ผมได้ถูกธนาคารฟ้องร้องคับการชำระหนี้ เมื่อปี 39 และได้ต่อสู้มาถึงศาลอุทรคดีเป็นถึงที่สุดปรากฏว่า ผมแพ้คดี ในปี 41 ถูกศาลพิพากษาให้ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน(บ้านและที่ดิน) หากไม่นำเงินมาชำระภายในกำหนด ทางธนาคารเรียกผมไปทำสัญญาประนีประนอมกันโดยทางธนาคารบอกว่าจะยังไม่ร้องขอให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์จำนอง โดยกำหนดให้ผ่อนชำระในอัตราก้าวหน้าคือ สองปีแรกให้ชำระเดือนละ 5000 บาท และสองปีถัดไป เดือนละ 50000 บาท และปีที่เหลือให้ชำระเดือนละ 100000 กว่าบาท โดยหากผมขาดส่งค่างวดแม้เพียง ครั้งเดียวก็จะขอศาลยึดทรัพย์เลย ผมบอกกับธนาคารว่า ปีแรกที่ผ่อนเดือนละ 5000 บาท ผมผ่อนพอไหว แต่ปีที่มีการผ่อน 50000 100000 บาท ผมไม่น่าจะผ่อนได้ ทางธนาคารก็กล่าวว่าผ่อนๆไปก่อน ถ้าผ่อนดีไม่ค้างค่างวด แล้วค่อยมาพูดกันใหม่ถ้าไม่ไหว การณ์ต่อมาผมก็ผ่อนโดยไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่งวดเดียว โดยผ่อนเดือนละ 5000 บาทตลอดมา 7-8 ปี แล้ว โดยในวันที่ 20 ก.ย. 48 ก็มีหมายมาปิดแจ้งว่าได้ยึดทรัพย์จำนองของผมเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ผมก็ไปชำระค่างวดที่ธนาคารตลอดเวลาตามสัญญา แม้ว่าการชำระจะไม่ได้ผ่อนตามอัตราก้าวตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 47 ผู้จัดการธนาคารได้เข้ามาพูดตอนที่ไปจ่ายค่างวดว่าให้เพิ่มเม็ดเงินผ่อนชำระ และผมก็ได้แจ้งเขาไปว่าไม่มีปัญญาผ่อนได้ แล้วเขาก็บอกว่าไว้ค่อยพูดกันใหม่ หลักทรัพย์ที่กล่าวนี้ผมก็อยู่อาศัยตลอดจะตามตัวผมก็ไม่ได้หลบหน้าไปไหน โดยทางธนาคารไม่แจ้งเตือนว่าจะยึดทรัพย์เลยอีกทั้งผมก็จ่ายค่างวดไม่เคยขาด แม้ว่าจะไม่ได้จ่ายอัตราก้าวหน้า แต่ทางธนาคารก็รับไว้ พร้อมออกใบเสร็จรับเงินให้ อีกทั้งเมื่อเดือนก่อนจะยึด ทางรองผู้จัดการธนาคาร ก็มาถ่ายรูปบ้านที่ถูดยึดนี้ และพบผมด้วย ผมถามว่าถ่ายรูปทำไม ทางรองฯบอกว่าถ่ายเพื่อประเมินหลักทรัพย์ประจำปีไม่มีอะไร
ท่านครับผมควรทำอย่างไรดีครับ ถูกรังแก ถ้าต้องฟ้อง ฟ้องได้ไหม อายุความที่จะฟ้องเท่าไร
เรียน ลูกหนี้แบงค์
เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องคดีจนคดีถึงที่สุดแล้ว เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิบังคับคดีได้ภายใน ๑๐ ปี การประนีประนอมกันข้างนอกและผ่อนส่งเงินให้เขา ไม่ได้ทำให้เจ้าหนี้หมดสิทธิการบังคับคดีได้ เว้นแต่จะได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในการประนีประนอมกัน เมื่อคุณไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว เจ้าหนี้จึงมายึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดตามสิทธิของเขา สิ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ คำนวณว่าได้ชำระเงินไปให้เขาเท่าไรแล้ว หนี้ควรจะเหลือเท่าไร เพื่อว่าถ้าหาเงินไปชำระเขาได้เขาก็จะได้ไม่ยึดทรัพย์ หรือในกรณีที่หาไม่ได้ ในการขายทอดตลาดจะได้คอยดูได้ว่าเมื่อขายแล้วเงินที่ขายได้เกินจำนวนหนี้ที่คุณยังต้องชำระอยู่หรือไม่ หากมี ก็จะได้ไปคอยติดตามเอาคืน
