คดีรถหาย
เมื่อกลางเดือนกันยายน 2547 รถของดิฉันได้หายไปจากหน้าบ้าน หลังจากนั้นได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เวลาผ่านไปประมาณ 15 วัน ตำรวจที่สระบุรี ได้โทรมาแจ้งว่าพบรถของดิฉันแล้ว วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปสระบุรี เพื่อรับรถคืน และได้ทราบจากตำรวจว่านาย ก ได้ขโมยรถของดิฉันไปแล้วจะนำไปขายต่อให้กับคณะของนาย ข เพื่อจะนำไปขายที่เขมร โดยตำรวจได้นำรถของดิฉันไปเป็นของกลางเพื่อไปล่อที่จะจับแกงค์นาย ข เมื่อจับได้ทั้งขบวนการ ตำรวจท้องที่ที่ดิฉันแจ้งความได้นำนาย ก กลับมาดำเนินคดีท้องในท้องที่ ที่ได้ขโมยรถของดิฉันไปสุดท้ายนาย ก ก็ได้รับการประกันตัว ส่วนนาย ข และคณะก็ถูกดำเนินคดีที่สระบุรี และ ในเวลาต่อมาดิฉันได้รับหมายศาลให้เป็นพยานในชั้นศาล ขอถามดังนี้ค่ะ
1. พนักงานสอบสวนยี่นเรื่องให้อัยการเป็นโจทย์และดิฉันเป็นพยานถูกต้องไหมคะ
2. เมื่อจับขโมยได้แล้วสามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่ขโมยได้งัดแงะไปได้ไหมคะ และมีขั้นตอนอะไรบ้าง ได้กำหนดเป็นข้อกฏหมายหรือเปล่าคะ
3. พนักงานสอบสวนแจ้งตอนดิฉันให้ปากคำว่าเป็นพยานในศาลจะมีค่าเสียเวลาให้จริงหรือเปล่าคะ และถ้าได้จำนวนเงินเท่าไร และเบิกได้ที่ใครคะ
4. ในวันที่ศาลนัดให้เราไปเป็นพยาน แต่ศาลเลื่อนพิจารณาคดี เนื่องจากทนายจำเลยคัดค้านว่าเอกสารไม่พร้อมเนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่เซ็นต์รับรองสำเนา เราจะได้รับค่าเสียเวลาหรือเปล่าค่ะ เพราะลางานไปเราต้องสูญเสียรายได้
5. ทำไม่การพิจารณาคดีครั้งแรกอัยการเป็นโจทย์ พยานคือเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย แต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และจำเลยในคดี ไม่ไปขึ้นศาลมีแต่ทนายจำเลยไป แล้วศาลมีแต่สำนวนการสอบสวนในการตัดสินจะยุติธรรมได้อย่างไรคะ แล้วเอาอะไรมาวัดคะ
6. เราจะขอถอนจากการเป็นพยานได้ไหมคะ เมื่อเราเป็นผู้เสียหายถึงจะได้รถมาแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้รับการชดใช้จากจำเลย แต่ต้องเสียเวลาไปเป็นพยานโดยที่ ต้องเสียการเสียงาน ต้องดำเนินการอย่างไรบ้างคะ
จากผู้มืดแปดด้าน |