เรียน อาจารย์มีชัย
ขอเรียนถามว่าเกี่ยวกับเรื่องเรียกร้องขอสิทธิ์ในที่ดินคืน เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันมีที่ดิน 1 แปลงและคิดจะกู้ธนาคารเพื่อทำการสร้างหอพัก ได้รู้จักกับคนรู้จักของคนที่เขียนแบบให้โดยเขาเข้าช่วยจัดการทำเรื่องกู้ธนาคารให้โดยตอนแรกจะกู้ในนามของดิฉัน แต่ติดปัญหาไม่สามารถกู้ได้เนื่องจาก Stement เงินฝากไม่มีตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด คนที่ทำเรื่องให้เขาก็บอกว่าจะช่วยให้กู้ไปก่อสร้างได้ โดยใช้ชื่อเขากู้ เพราะใช้ Stement ของบริษัทเขา หลังจากนั้นเขาก็แจ้งให้ทราบว่าเรากู้ได้วงเงินตามที่พอก่อสร้างได้ หลังจากนั้นเขาก็จัดการยื่นขอก่อสร้างในชื่อของดิฉัน เนื่องจากชื่อในโฉนดเป็นชื่อดิฉัน หลังจากนั้นก็เขาจ้างผู้รับเหมาซึ่งเป็นคนที่มีบ้านอยู่ในอำเภอเดียวกันกับดิฉัน โดยผู้รับเหมาก็ทำการก่อสร้างไปก่อนโดยยังไม่ได้ทำสัญญากันเนื่องจากเชื่อใจกัน ต่อมานัดจ่ายเงินให้ผู้รับเหมา ทางคนที่ทำเรื่องกู้ได้แจ้งให้ทราบว่าไม่สามารถเบิกเงินจากแบงค์มาจ่ายผู้รับเหมาได้เนื่องจากชื่อโฉนดเป็นชื่อของดิฉัน แต่ชื่อคนกู้เป็นชื่อเขา ซึ่งเขาแจ้งให้ดิฉันทราบว่าต้องโอนโฉนดให้เป็นชื่อเขาก่อน พอเสร็จเรื่องก่อสร้างเรียบร้อยค่อยโอนสิทธิ์ในโฉนดคืน+ทำเรื่องเปลี่ยนคนเจ้าผ่อนกับธนาคารที่หลังเป็นดิฉันแทน ดิฉันได้ทำการโอนโฉนดให้เขาโดยไม่ได้ทำเอกสารอะไรหรือสัญญาอะไรกับเขา พอหลังจากโอนโฉนดที่ดินให้แล้วเขาทำการแจ้งว่าธนาคารจะจ่ายตังค์ให้อีกประมาณ 15 วันและตัวเขาเองได้ทำสัญญาจ้างรับเหมากับผู้รับเหมาในนามชื่อเขาแทนดิฉัน จนถึงกำหนดที่ธนาคารบอกว่าเบิกเงินได้ เขาก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินตามงวดงานที่ก่อสร้างให้กับผู้รับเหมา เมื่อติดต่อคุยกับเขาๆก็มีแต่ผิดนัดไม่จ่ายเงินค่าก่อสร้างให้จนสุดท้ายตรวจสอบเจอว่าเขานำโฉนดที่ดินไปทำการซื้อขายกับบุคคลไว้ แทนที่จะเป็นจำนองกับธนาคารตามที่เขาแจ้ง และสุดท้ายเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์+ไปหาที่บ้านก็หนี+พูดขู่ให้ไปฟ้องร้องเอาเงินค่าก่อสร้างในสัญญารับเหมาเอาเอง..ส่วนที่ดินดิฉันบอกให้เขาโอนโฉนดคืนมาเขาก็บอกว่าจะโอนคืนให้แต่ต้องรอเขาติดต่อคนที่เขาไปขายฝากให้ได้ก่อนเพราะเขาไปต่างจังหวัด ดิฉันจึงมีคำถามว่า
1.ดิฉัน+ผู้รับเหมาจะแจ้งความกับตำรวจข้อหาฉ้อโกง+หลอกลวง โดยเป็นเจ้าทุกข์ร่วมกัน จะมีสิทธ์เรียกร้องเอาโฉนดที่ดินคืนกลับมาเป็นสิทธิ์ของดิฉันตามเดิมได้ไหม
2.ผู้ที่รับซื้อฝากไว้ถ้ารู้ความจริงถือว่าผิดไหม เขามีสิทธิ์ไม่โอนคืนโฉนดคืนให้ไหมถ้าเราไม่มีเงินไปไถ่กลับ
จากผู้มืดมน
เรียน ผู้มืดมน
1. ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างที่เล่ามาและหาพยานหลักฐานนำสืบได้ ก็เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกง สามารถร่วมกับผู้รับเหมาแจ้งความได้
2. ถ้าเขารู้ความจริงในลักษณะสมคบกันโดยไม่ได้จ่ายเงินจริง ก็อาจเข้าข่ายสมคบกันฉ้อโกงได้ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง
ทำไมถึงเชื่อคนง่ายอย่างนี้ก็ไม่รู้ซี
อันกฎหมายนั้น ดู ๆ ไปก็เป็นเรื่องง่าย ซึ่งก็มีส่วนจริง เพราะถ้ารู้ก็อาจจะรู้สึกง่าย แต่ถ้าไม่รู้อะไรเลย และไม่ให้ความสำคัญกับมัน ก็จะถูกหลอกได้ง่าย คนไทยเรามักจะทำอะไรโดยเชื่อใจกันไว้ก่อน โดยมักจะคิดว่าเขาคงไม่โกงเราหรอก จะไปปรึกษากับทนายความก็กลัวว่าจะต้องเสียเงิน และที่สำคัญมักจะรู้สึกกันว่า ถ้าไปปรึกษาหรือขอหลักฐานเป็นหนังสือจากใคร ดูจะเป็นการไม่ไว้วางใจกัน และ้ด้วยความเกรงใจเป็นพื้นฐาน จึงมักจะทำกันไปตามความเชื่อ และส่วนใหญ่ก็มักจะเดือดร้อนจนเกินที่จะแก้ไข
