ถูกฟ้องหมิ่นประมาท
ดิฉันอายุ 25 ปี โสด ได้เลี้ยงดูเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบไว้ 1 คน(เด็กมีแม่อยู่กับแม่แต่ก็ไปๆมาๆกันทุกวัน เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้าน ซอยใกล้กัน และแม่ของเด็กก็ไปเป็นภรรยาน้อยของคนที่อยู่ด้วยในหมู่บ้านเดียวกัน ดิฉันรู้จักกับแม่เด็ก ก็สงสารจึงดูแลเด็ก ตอนที่ดิฉันว่างเสมอ) มีอยู่วันหนึ่ง คือวันนที่ 26 มิถุนายน 2546 เด็กไม่สบาย เวลา 9.00 น.แม่เด็กก็พาเด็กไปตรวจที่สถานีอนามัย ได้รับยา..กลับมากินที่บ้าน ปรากฏว่าช่วงเย็นอาการไม่ดีขึ้นแล้วมีผื่นขึ้นตามตัว ดิฉันก็กลับมาจากที่ทำงานมาได้พบเด็ก ก็นำเด็กกลับมาตรวจซำที่สถานีอนามัยเดิม เวลาประมาณ 21.00 น. ปรากฏคุณหมอก็บอกว่าสงสัยเด็กอาจจะแพ้ยา ก็บอกให้หยุดยา pennicillin 250 mg.ดิฉันรู้สึกโกรธมากแต่เก็บใว้ ก็ลองถามคุณหมอที่ตรวจดูว่าคุณหมอที่ตรวจเมื่อเช้าชื่ออะไร คุณหมอก็บอกว่าอาจจะเป็นคุณ ก. ที่ตรวจ ซึ่งดิฉันก็จำใว้พอกลับมาบ้านก็ตัดสินใจเขียนหนังสือ 2 ฉบับไปที่ รพ.ชุมชน 1 ฉบับและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 1 ฉบับ ดิฉันก็เขียนหนังสือในลักษณะที่ว่าทำไมถึงจ่ายยาให้เด็กแพ้ยา และก็จ่ายยาเม็ดด้วย ทางสถานีอนามัยไม่น่าจะมีบุคลากรที่ประมาทเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดซำกับลูกหลานคนอืน ดิฉันจึงเขียนจดหมายไป ตามที่กล่าวขั้นต้น 2 ฉบับ โดยระบุ ชื่อ - นามสกุล ..คุณ ก. ชัดเจน แต่ดิฉันมาทราบภายหลังว่าไม่ใช้ คุณ ก.ที่ตรวจรักษา ก็ได้ทำหนังสือขอโทษ ไปทั้ง 2 แห่งเรีบยร้อยแล้ว ได้นำกระเช้าดอกไม้ไปขอโทษที่บ้าน คุณ ก. แต่คุณก็ไม่ยอมรับคำขอโทษ ไม่ให้เข้าบ้าน และได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทกับดิฉัน ซึงดิฉันจะมีคำถามถามอาจารญ์ ดังต่อไปนี้
1.ตำรวจเคยส่งเรื่องไปให้อัยการแล้ว 1 ครั้ง ปี 2546 และดิฉันก็ไปศาลตามที่ตำรวจบอกและทางศาลก็บอกว่าได้ส่งเรื่องกับมาแล้ว ไม่มีใครแจ้งคุณหรือไง (ดิฉันลืมบอกตำรวจท่านนี้ สนิทกับคุณ ก.)
ทำให้ดิฉันไปเก้อ และเรื่องราวก็ผ่านมาถึงปัจจุบัน 17 มีนาคม 2548 ตำรวจท่านเดิมบอกว่าตอนนี้กำลังจะดำเนินเรื่องฟ้องดิฉันไหม่ ดิฉันก็กลุ้มใจมากว่าทำไม ผ่านมาตั้งนานเรื่องไม่จบเสียที คดีแบบดิฉัน มีอายุความนานเท่าไร คะและมีโทษอย่างไรบ้างคะ
2.ขั้นตอนการดำเนินการที่ถูกต้อง เป็นอย่างไรคะ นับตั้งแต่ถูกแจ้งความ จนคดีสิ้นสุดค่ะ..ดิฉันไม่ทราบเลยกลัวจะเสียเวลางานและโดนไล่ออกค่ะ
3.ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ ..ถึงจะต้องผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้..และดิฉันจะได้รับโทษอย่างไรคะ
..กรุณาตอบให้ด้วยนะคะ..อาจารย์..ดิฉันกลุ้มมากไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้ว..
.............ขอบพระคุณมากนะคะ........ |