กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัยด้วยความเคารพอย่างสูง

     ข้าพเจ้าชอบใจคำตอบของอาจารย์ที่ว่า...เส้นทางสว่างโดยไม่เรียนนั้นไม่มีหรอก  การเรียน
จะให้ลึกซึ้งก็ต้องเรียนอย่างจริงจัง อ่านหนังสือให้มาก ค้นคว้าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั่นแหละ ให้มาก ๆ
 ไว้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจึงจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการเรียนรู้  เพราะอันที่จริงกฎหมายก็คือ
กฎเกณฑ์ของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้ว....จึงขอเรียนรู้เพื่ม้เติมกับท่านอาจารย์ดังนี้

เช่นเดียวกันกับกรณีที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า...อันเกี่ยวเนื่อง
กับคำถามของข้าพเจ้า...

       จากคำถามของข้าพเจ้าเลขที่.040358....วันที่  26 พ.ค.2553 นั้น
กรณีที่ ท่านอ.มีชัยใด้ให้คำแนะนำตามคำถามดังกล่าว
(กรณีลูกเสียชีวิต...ในวันที่ 14 พค.ที่บ้านเกิดและบัตร นปช.น่าจะหายในช่วงชุมนุม
ก่อนวันที่ 13 พ.ค.53 ขอคำแนะนำ กรณีสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายอันเกี่ยวเนื่องกับ
การชุมชุมทางการเมือง(กรณีเสื้อแดงผ่านฟ้าและราชประสงค์)และในวันที่ 14 พ.ค.53
กลับบ้านแล้วมาฆ่าตัวตาย...จากความเครียดและหลากหลายปัญหา) ผมต้องการให้มันจบ
แบบเงียบ ๆ จึงไม่ได้ร้องทุกข์ต่อเนื่องไป ศอฉ.หรือ ท่านปณิทาน ตามที่ท่านอ.มีชัยให้ข้อคิด
เสนอแนะแต่ประการใด...แต่มีเหตุให้สงสัยดังนี้
    จากวันนั้นจนถึงปัจจุบัน..ต่อมาจากข่าวสารรัฐบาลกำลังลังทำเรื่องปองดอง..แต่ข้าฯมีข้อ

กังวลเล็กน้อย..เกี่ยวกับการจะออกกฎหมาย..ว่าด้วยนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุม..กรณีลูกชาย

ข้าพเจ้าที่ตายไปแล้วนั้นจะเข้าข่ายได้รับนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่..เพราะทราบว่าจะจับหลายหมื่นคน..และได้รับการบอกเล่าและเชื่อมโยงว่า ช่วงก่อนลูกกลับมาตายที่บ้านนั้น.(14 พ.ค.53).ได้เข้า
ไปมีส่วนเกี่ยวข้อง(อาจมีภาพ จากกล้องวจรปิด)หรืออาจมีภาพที่ทางรัฐบาล เจ้าหน้าที่ถ่ายไว้.
.ในกลุ่มวัยรุ่นขณะชุมนุมที่ลูกของข้าชอบเข้าร่วมชุมนุมแดง.... กรณีลูกชายข้าฯคือคำ
ถามข้อที่ 1 ซึ่งไม่เป็นกังวลเพราะเขาได้ตายไปแล้ว...แต่ลึก ๆ ก็อยากทราบจากกลุ่มเพื่อน

ของเขาที่เข้าไปทำอะไรกันบ้าง..ในระหว่างชุมนุม
   คำถามข้อที่ 2 คือตัวข้าพเจ้าเองผู้เป็นพ่อ...ผมยอมรับว่าผมเคยเข้าไปในสถานที่ชุมนุม
กลุ่มคนเสื้อแดงหลายครั้ง...แต่ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปเพื่อร่วมชุมนุมแต่อย่างใด...ใน
ช่วงมีนาคม 2553 ปลายเดือน ผมเข้าไปก่อนเหตุรุนแรงเพื่อไปตามหาลูกชาย(คนที่ตาย)
ให้ไปลงทะเบียนเรียนซ่อม SUMMER และช่วงเมษายนหลังวันที่ 20 เมษา 2553
เข้าไปและไปตามหาลูกชาย...ทั้งที่รังสิต อนุสรณ์สถาน  สี่มุมเมือง หน้าเซียร์รังสิต และ
อาศัยรถ ...(น่าจะเป็นแดงทางอีสาน)เข้าไปราชประสงค์ในช่วงหลังเหตุการณ์ สลาย
ชุมนุมที่อนุสรณ์สถาน ดอนเมือง....ตรงนี้เองที่เป็นข้อกังวลของข้าฯอาจมีรูปภาพข้าฯ
ปรากฏในเอกสารของทางราชการ...แต่ด้วยความที่ว่าเป็นช่วงก่อนความรุนแรง...จึงไม่คิด
อะไรมาก...แต่เมื่อฟังข่าวเมื่อวัน 2 วันที่ผ่านมาว่าจะจับเพิ่มอีกเป็น 10000 กว่า คน จาก
ข้อมูลการซัดทอดและหากมีภาพถ่ายจากการชุมนุม..รวมทั้ง คนเสื่อหลากสีที่ออกมาชุมนุม
ก็ถือว่าผิดด้วย(ผมไปตามหาลูกชายนั้นไม่ได้ใส่เสื้อแดงแต่ใส่เสื้อสีอื่น ๆ)และบางวันผมก็
อยู่ในกลุ่มคนเสื้อหลากสี(ไปติดต่อบริษัท เอ.ไอ.เอ ตามนัดกับตัวแทน)และที่อนุสาวรีย์ชัย
ข้าฯก็อยุ่ที่รูปปั้น ดาบปลายปืนและรูปทหารผ่านศึกกลางอนุสาวรีย์ชัย(พ่อข้าฯเป็นหทารผ่านศึก)

ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าข้าฯมิได้เข้าไปเป็นผู้ร่วมชุมนุม...แต่เหตุการณ์ความห่วงลูกที่เรารู้
ว่าเขาเป็นแดงเต็มตัว...ลูกข้าฯเปิดเผยตัวตลอดเวลา(ชอบใส่เสื้อแดงและแสดงตนว่าอยู่
ข้างแดง)ทั้งในสถานศึกษาและในชีวิตประจำวัน...การเดินทางไปไหน ๆ ใส่เสื้อแดงในตัวจังหวัด

จนเพื่อน ๆ นักศึกษาเตือนเพราะละแวกบ้านเป็นเหลืองกันหมด...ทุกอย่างทำไปเพราะห่วงลูกจริง ๆครับ ข้อคำถามว่า (2)
กรณีนี้...จะมีชื่อหรือหน้าตาปรากฎที่อาจเป็นเหตุให้ ศอฉ.ใส่ชื่อแล้วแจ้งว่าเราเข้าชุมนุม
ผิดกฏหมายหรือไม่อย่าง ไร(ทั้งกรณีเข้าไปกลุ่มแดง และเข้าอยู่กลุ่มเสื้อหลากสี)ทั้งนี้ยืนยัน
ว่าหลังวันที่ 13 พ.ค.2553 - 25 พ.ค.2553 ข้ามิได้เข้าไปเพราะวันที่
14 พ.ค. 53 ลูกชายกลับมาตายที่บ้านที่ต่างจังหวัด ข้าฯก็จัดงานศพลูกชาย จนถึงวันที่ 20พ.ค.
 ไปลอยอังคารให้เขาไปอย่างสงบ...แต่ขณะนี้ พ่อไม่ค่อบสงบเท่าไรนัก..จึงถามมาเพื่อคลายสงสัย

 ว่ารัฐบาล หรือ ศอฉ.จะเอาอย่างไร...ด้วยความขอบคุณยิ่ง....

           ผู้พ่อ อดีตรัฐศาสตร์ รามคำแหงรหัส 22 ลูกตายเกี่ยวเนื่องเสธแดงถูกยิงและจากการกระชับพื้นที่ราชประสงค์ 14 พ.ค.2553