สวัสดีครับ ผมมีข้อหารือที่สอบถามอาจารย์ ดังนี้
๑. กรณีบทบัญญัติมาตรา ๖๐ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ได้กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ หรือในที่เอกชน คำว่า "ในที่เอกชน" ตามมาตราดังกล่าวจะหมายถึงสถานที่ทุกแห่ง รวมถึงบ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ใช่หรือไม่
๒. หากคำว่า "ในที่เอกชน" ตามมาตรา ๖๐ มิได้หมายรวมถึงสถานที่ทุกแห่งแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งจะสามารถใช้อำนาจตามมาตรา ๑๐ (๒) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.๒๕๕๐ ออกประกาศหรือวางระเบียบกำหนดการทั้งหลายอันจำเป็นเพื่อกำหนดในที่เอกชนใดสามารถที่ติดประกาศหรือแผ่นป้ายหาเสียงได้ หรือในที่เอกชนใดไม่สามารถที่ติดประกาศหรือแผ่นป้ายหาเสียง เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับผู้สมัคร ได้หรือไม่
๓.บุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญสามารถช่วยเหลือผู้สมัคร หรือ พรรคการเมือง หาเสียงเลือกตั้ง เช่น ขึ้นเวทีปราศรัย ถ่ายรูปคู่กับผู้สมัคร เป็นบุคคลผู้ช่วยหาเสียง เป็นต้น ได้หรือไม่
๔. กรณีบทบัญญัติมาตรา ๑๐ (๕) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่กำหนดให้การตอบข้อหารือของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามมิให้ปฏิบัติของพรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยต้องตอบข้อหารือภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับข้อหารือ ถือว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้ตอบข้อหารือเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องเฉพาะตัว ใช่หรือไม่ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถมีมติคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อมอบอำนาจให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ตอบข้อหารือแทน ได้หรือไม่
1. ใช่
2. เมื่อเป็นที่เอกชน กกต.ก็ไม่มีอำนาจไปริดรอนสิทธิของเอกชน เว้นแต่เจ้าของเขาแสดงความยินยอมไว้
3. กกต.เขากำลังพิจารณาอยู่ว่า จะทำได้มากน้อยเพียงใด ตอนนี้คงต้องรอฟังเขาก่อน
4. มอบอำนาจได้ แต่เมื่อมอบแล้วคำตอบของคนที่รับมอบก็ต้องผูกพัน กกต.