กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพ ผมในฐานะคนไทยที่ติดตามสถานการณ์การเมือง รวมทั้งความคืบหน้าของกระบวนการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา แต่ทว่าดูข่าวทีไรมีแต่คนนู้นมาแฉ มาบล็อคคนนี้จนเกิดคำถามว่า
1.ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หละที่รธน.ฉบับใหม่จะเสร็จตามที่กรอบกำหนด 1 ปีหรือไม่
2.และจากข่าวที่ว่า พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ แถลงขอร้องให้อาจารย์ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพราะมีหลักฐานว่าอาจารย์ได้กระทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่คุณประทินอ้างเป็นจริงและความจริงแล้วจะส่งผลอะไรหรือไม่คุณประทินระบุเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2543 นายมีชัย ได้บังอาจกระทำการขัดต่อกฎหมาย โดยอ้างฐานะตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทำหนังสือกราบบังคมทูลรายนามบุคคลจำนวน 10 คน เพื่อทรงพิจารณาแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และในวันที่ 14 เมษายน 2543 ได้ลงชื่อรับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการดังกล่าว โดยอ้างฐานะตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทั้งที่การดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาของนายมีชัย ได้สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2543 โดยบทเฉพาะกาลไม่ได้บัญญัติให้สมาชิกวุฒิสภาชุดดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
"ผมอยากชี้ให้เห็นว่า นายมีชัย เป็นนักกฎหมาย เป็นคนมีชื่อเสียง ถามว่าคุณมีชัย ไม่รู้หรือ ถามว่าทำไมถึงได้ทำโดยปราศจากอำนาจหน้าที่ และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ และเมื่อผมได้รับทราบข้อเท็จจริง จึงนิ่งดูดายไม่ได้ เพราะบ้านเมืองที่มีปัญหาก็เป็นเพราะมาจากผู้มีอำนาจหน้าที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ" พล.ต.อ.ประทิน กล่าวและว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางการเป็นประธานสภานิติบัญญัติฯ ของนายมีชัยแต่เห็นว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำมาเปิดเผยเพื่อให้ผู้ปกครองประเทศดำเนินการเรื่องนี้ตามกฎหมายต่อไป
เรียนถามด้วยความเคารพ
เรียน สมานฉันท์
เรื่องที่คุณประทินพูดนั้น ความจริงเคยพูดกันมานานตั้งแต่เมื่อ ๖ ปีที่แล้ว
ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง สว.ชุดแรกเข้ามานั้น ในการเลือกตั้งครั้งแรก ได้ สว.มาไม่ครบ ๒๐๐ คน จึงเกิดปัญหาว่ายังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ และรัฐธรรมนูญในขณะนั้น มาตรา ๑๓๑ วรรคสองบัญญัติว่า "เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามมาตรา ๑๖๘ ให้สมาชิกวุฒิสภาที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่อายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือกตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่" วุฒิสภาชุดนั้นจึงเข้าใจว่ายังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ประกอบกับก่อนที่วุฒิสภาชุดนั้นจะสิ้นอายุ ได้มีการให้ความเห็นชอบกรรมการตรวจเงินแผ่นดินไปเรียบร้อยแล้ว ประธานวุฒิสภาจึงนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง และเมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว จึงลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ต่อมาสมาชิกวุฒิสภาชุดที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เข้าชื่อกันเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แม้จะยังมีสมาชิกวุฒิสภาไม่ครบ ๒๐๐ คน ก็มีสิทธิปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว และวุฒิสภาชุดเดิมไม่มีสิทธิปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๓ (อันเป็นเวลาภายหลังจากที่มีการนำความกราบบังคมทูลและมีการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการไปเรียบร้อยแล้ว) ว่า ตราบที่วุฒิสภายังมีสมาชิกไม่ครบ ๒๐๐ คน ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ในขณะเดียวกัน วุฒิสภาชุดเดิมก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนั้น เรื่องก็ยุติลง แต่มิได้มีผลกระทบต่อการดำเนินการใด ๆ ที่ได้กระทำไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินชุดที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งก็อยู่ทำงานจนครบวาระไปโดยไม่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้น เรื่องนี้เมื่อวุฒิสภาชุดของคุณประทินเข้ามาใหม่ ๆ ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ และพบข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงยุตืเรื่องไป