รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๐ วรรคแรก บัญญัติว่า กรรมการการเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งเจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
ดูจากประกาศของศาลฎีกา เรื่องรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อสรรหาเป็น กกต.แล้ว เห็นมีอยู่ ๒ ท่าน คือ ท่านธีรศักดิ์ กรรณสูตร อดีตประธาน กกต.และ ท่านสวัสดิ์ โชติพานิช อดีต กกต. ซึ่งถือว่าทั้งสองท่านเคยดำรงตำแหน่ง กกต.มาแล้ว แต่ได้รับการเสนอชื่อจากศาลฎีกาอีก คิดว่าผู้เสนอชื่อคงเป็นนักกฎหมาย ท่านผู้ได้รับการเสนอชื่อก็เป็นนักกฎหมายมีตำแหน่งสูงในศาลมานาน
ทำให้สงสัยว่า ที่รัฐธรรมนูญให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว ผมเข้าใจว่าถ้าดำรงตำแหน่งมาแล้วจะกี่วันก็นับเป็นหนึ่งวาระ จะดำรงตำแหน่งอีกไม่ได้ แต่พอทั้งสองท่านได้ยินยอมให้เสนอชื่อท่าน และผู้เสนอซึ่งเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ผมซึ่งไม่ใช่นักกฎหมาย ทำให้ไม่มั่นใจว่า การตีความในรัฐธรรมนูญเขาตีความเพียงวาระเดียวกันอย่างไร ท่านทั้งสองจึงยินยอมรับการเสนอชื่ออีก ผู้เสนอชื่อก็คงเป็นนักกฎหมายก็ยังเสนอชื่อท่านอีก เขาตีความให้ดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียวอย่างไร
ตามมาตรา ๓๒๑ ของรัฐธรรมนูญ อันเป็นบทเฉพาะกาล ได้บัญญัติว่า บรรดา ปปช. กกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่วุฒิสภาชุดที่มาจากการแต่งตั้งชุดสุดท้ายเป็นผู้เลือกนั้น ให้มีวาระเพียงครึ่งเดียวจากที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และไม่ให้นำบทบัญญัติที่ให้เป็นได้วาระเดียวมาใช้บังคับกับคนเหล่านั้น จึงสามารถสมัครใหม่ได้