เรียกค่าเสียหาย
กราบเรียน อาจารย์มีชัย ฤชุพันธ์ที่เคารพนับถือ
นายดมขับรถด้วยความเร็วสูงไม่ระมัดระวัง ไปชนผู้อื่นได้รับความเสียหาย 4 คัน โดย 3 คันแรกนายดมได้เจรจาชดใช้ค่าเสียหายและค่าบาดเจ็บให้กับทั้ง 3 คันแรกโดยเลิกแล้วต่อกันและยุติ โดยนายดมมีตัวแทนประกันภัยชั้น 1 ภาคสมัครใจรถของนายดมเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติยอมความกันไม่ติดใจเรื่องค่าเสียหายต่อกัน
รถคันที่ 4 เสียหายคนขับนายเอกได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนรักษาตัวนานที่โรงพยาบาลนาน 45 วัน โดยฝ่ายนายดมไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นตั้งแต่วันแรกที่นายเอกเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งออกโรงพยาบาล ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ หูหนวก ตาพร่ามัวมองไม่เห็นตามปกติ ต้องใช้เลนส์พิเศษเป้นแว่นตาเพื่อการมองเห็นหมอบอกเป็นคนพิการเดินไม่ได้
ต่อมาพนักงานสอบสวนเรียกนายเอกไปสอบปากคำและแจ้งข้อหาความผิดอาญาต่อนายดม ให้นายเอกรับทราบด้วย หลังจากนั้นเรียกทั้งสองฝ่ายไปเจรจาตกลงกันเรื่องค่าเสียหายที่ฝ่ายนายดมเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ทางนายดมไม่ยินยอมรับผิดชอบใดๆต่อนายเอก และค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลของนายเอก การเจรจาผ่านไปนาน 6 เดือนนายดมก็ยังไม่ยินยอมรับผิดชอบทั้งที่นายดมมีประกันภัยชั้น 1 ที่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลซึ่งเป็นค่าสินไหมกรมธรรม์ของนายดม 1 ล้านบาทตามที่นายดมบอกตำรวจ เมื่อเห็นว่าไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ พนักงานสอบสวนจึงให้นายเอก ร่วมฟ้องคดีอาญากับพนักงานอัยการตามที่สอบสวนส่งฟ้องคดีอาญานายดมเพื่อเรียกค่าเสียหายจากนายดม
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกรอลงอาญานายดม 1 ปีให้ชดใช้ค่าเสียหายให้นายเอกตามที่ศาลมีคำพิพากษา ทั้งสองฝ่ายต่างอุทธรณ์คดี ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้นายดมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายเอกเพิ่มขึ้นจากศาลชั้นต้น
ต่อมาทั้งสองฝ่ายยื่นฎีกาต่อศาล ศาลฎีกาพิพากษาให้นายดมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายเอกเพิ่มจากศาลอุทธรณ์
หลังคำพิพากษานายดมขอเวลา 1 เดือนเพื่อไปเตรียมนำค่าเสียหายมาชดใช้นายเอกตามคำพิพากษา เมื่อเสร็จสิ้นชดใช้ค่าเสียหายแล้วตามคำพิพากษาศาล
นายเอกยังไม่ได้เรีเรยกร้องค่าทรัพย์สินเสียหายของนายเอกจากนายดมทั้งที่นายดมเคยรับปากจะชดใช้ให้นายเอกถ้านายเอกออกโรงพยาบาลแล้ว นายเอกยังไม่ได้เรียกร้องค่ารักษาต่อเนื่องจากนายดมจนถึงวันนี้ เนื่องจากนายเอกเคยเรียกร้องขณะที่ศาลพิจารณาคดี ศาลบอกว่าเป็นการฟ้องซ้อนจึงยกฟ้องคดี ให้ฟ้องใหม่หลังศาลฏีกาตัดสินคดีแล้ว
คำถาม 1.คดีเกิดปี 2549 ศาลฎีกาตัดสินคดีปี 2557 คดียังมีอายุความอยู่ใช่หรือไม่
2.นายเอกสามารถฟ้องคดีเรียกร้องค่าทรัพย์สินเสียหายของนายเอกจากนายดม หรือกรมธรรม์ประกันภัยรถของนายดม ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถของนายดมได้หรือ ถ้าอายุความคดียังไม่สิ้นสุด
3.นายเอกสาทารถฟ้องคดีเรียกร้องค่ารักษาต่อเนื่องของนายเอกจากนายดมหรือกรมธรรม์ประกันภัยรถของนายดม ได้หรือไม่ถ้าอายุความคดียังไม่สิ้นสุด
4.ศาลฎีกาตัดสินให้นายดมชดใช้ค่าเสียหายให้กับนาย ถ้านายเอกลดจำนวนชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายดมได้หรือไม่ มีความผิดไหม
5.ถ้าหากว่าในอนาคต เมื่อนายเอกรักษาตัวทางแพทย์แผนปัจจุบัน ทางแพทย์แผนไทย ทางความเชื่อของท้องถิ่นบ้านนายเอก ถ้าวันหนึ่งนายเอกลุกขึ้นยืนพยุงตัวได้ ได้แม้ไม่ปกติ หรือย่างเท้าได้ หรือย่างก้าวปัดไปปัดมา เหมือนคนไม่ปกติ หรือโชคดีหายวัน หายคืน ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ไม่ปกติเหมือนเดิม เวลาผ่านไป นายดมรู้จะฟ้องกลับได้ไหม ถ้าเห็นไม่พิการนั่งรถเข็น ทุกวันนี้รักษาตัวกายภาพบำบัดตลอดเวลา ถ้าฟ้องทางนายดมจะฟ้องนายเอกข้อหาใดได้บ้าง
6.ถ้าความฝันเป็นจริงไม่รู้เมื่อไหร่ วันใด พยุงตัวลุกได้ หรือย่างขยับเท้าได้ นายเอกจะต้องคืนเงินให้นายดมไหม ที่ศาลฎีกาสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายกับนายเอก จะต้องคืนทั้งหมดไหม หรือจะต้องคืนส่วนใดบ้าง
7.ถ้าฝันเป็นจริงเมื่อไหร่ไม่รู้ นายเอกจะต้องไปแจ้งศาลไหมถ้าพยุงตัวลุกได้ ย่างเท้าได้ หัดเดินได้ ถ้าโชคดีเพราะมีความเชื่อเช่นนั้น จะต้องไปแจ้งศาลตอนไหน เวลาใด
ขอกราบขอบพระคุณมาก
จะต้องคืนทั้งหมดไหม |