สวัสดีครับ อาจารย์ มีชัย ที่เคารพ
กระผมมีเรื่องสอบถาม เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ พฤกษาคม 2552 กระผมทำงานเป็นพนักงานบริษัท โดยบริษัทได้มอบอำนาจให้ผมเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับลูกค้าในข้อหา แจ้งความเท็จ ต่อมาเดือนธันวาคม 2552 กระผมก็ได้ลาออกจากบริษัทดังกล่าว และมีปี 2555 บริษัทได้ขายกิจการต่อให้ธนาคาร และบริษัทก็ได้แจ้งเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบัน 2557 มีหมายศาลมาให้กระผมไปเป็นพยานโจกท์ในคดีแจ้งความเท็จโดยท่านอัยการให้ผมเบิกความในฐานะผู้รับมอบอำนาจของบริษัทเก่าที่ได้เลิกกิจการไปแล้ว ซึ่งท่านอัยการบอกมีผมเป็นพยานโจทก์ปากเดียว คำถามครับ 1.หนังสือมอบอำนาจบริษัทเก่ายังมีผลผูกพันธ์กับผมหรือไม่ 2.ธนาคารที่ซื้อกิจการไปไม่รู้ว่าทราบเรื่องนี้หรือเปล่า ผมต้องแจ้งให้ธนาคารทราบไหมครับถ้าธนาคารไม่รู้เรื่องเดี่ยวโดนฟ้องกลับธนาคารจะเกี่ยวข้องหรือเปล่า 3.ผมไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ มีวิธีดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ บริษัทก็เลิกกิจการไปแล้ว กลายเป็นผมต้องไปรับภาระ ต่อสู้ และเบิกความอยู่คนเดียว 4.ถ้าศาลยกฟ้อง จำเลยชนะคดีจะกลับมาฟ้องผมได้หรือไม่ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจะมีความผิดไหมครับ เช่นแจ้งกลับว่าแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ
ขอบคุณอาจารย์มีชัย อย่างสูง และขอให้มีสุขภาพแข็งแรงเป็นที่พึ่งของคนไทยครับ
๑. ไม่มีผลให้ีคุณยังมีอำนาจอะไรอีกต่อไป เพราะคนมอบไม่มีตัวตนแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหลีกเลี่ยงการเป็นพยานได้ เพราะเขาต้องการคุณไปเบิกความในเรื่องที่คุณเคยทำมา
๒. ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ
๓. คุณไม่ยุ่งก็ไม่ได้ เพราะคุณเป็นคนไปแจ้งความไว้
๔ ฟ้องคุณไม่ได้หรอก เพราะคุณทำแทนคนอื่น