ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    049958 ฝรั่งถูกหลอกให้ซื้อที่ดินพร้อมหลักทรพัย์เป็นชื่อของงคนอื่น พลอยขวัญ20 เมษายน 2557

    คำถาม
    ฝรั่งถูกหลอกให้ซื้อที่ดินพร้อมหลักทรพัย์เป็นชื่อของงคนอื่น

    ดิฉันมีปัญหา ดังนี้คะ

    ดิฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งเป็นฝรั่งสมมุติชื่อ A ซึ่งทำงานกับพี่ชายชื่อ B ซึ่ง B แต่งงานกับนาง C  โดยนาย B ได้เปิดบริษัททำเฟอร์นิเจอร์ส่งออกและขายในประเทศ ร่วมกับคนไทย 2 คน  ส่วนนาย A ทำงานช่วยในบริษัทไม่ได้เป็นหุ้นส่วน วันหนึ่งบริษัทได้ตกลงซื้อโรงงานใหม่บนที่ดิน 4 ไร่พร้อมโรงงานเปล่า 1 หลัง มูลค่า 7.5 ล้านบาท  โดยนาย B ตกลงกันด้วยวาจากับนาย A ว่า จะให้นาย A เป็นผู้จ่ายเงินทั้งหมดไปก่อนเนื่องจากนาย B ไม่มีเงิน  เมื่อได้หลักทรัพย์ (ที่ดินและโรงงาน)มาแล้วจะนำไปเข้าธนาคาร แล้วเอาเงินมาคืนนาย A แต่วันโอนนาย B ขอให้โอนเป็นชื่อของนาง C ภรรยาของตน  ให้เหตุผลว่าจะกู้ได้ง่ายขึ้น  นาย A เชื่อพี่ชายจึงตกลงจ่ายเงินทั้งหมด 7.5 ล้านบาท และโอนเป็นชื่อนาง C โดยนาง C ได้เก็บเอกสารทุกอย่างไว้กับตนเอง โดยไม่ยอมให้คนอื่นได้ดู  และภายหลังนาง C ไม่ยอมยื่นกู้  นาย A จึงขอให้ขายเอาเงินคืนตน แต่นาง C ก็ไม่ยอมขายแต่กลับมีอารมณ์ฉุนเฉียวทุกครั้งที่นาย A ถามถึงเรื่องการกู้หรือการขาย โดยนาย B ก็ไม่สามารถคุยให้นาง C จัดการกู้หรือขายได้  ขณะเดียวกับนาง C มีอาการป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องด้วยซึ่งอาการระบุว่าจะมีผลทางประสาทด้วย ดิฉันขอเรียนถามดังนี้

    1.    นาย A มีโอกาสที่จะต่อสู้เพื่อให้นาง C ขายหลักทรัพย์และเอาเงินมาคืนตนเองเป็นไปได้หรือไม่  เพราะเอกสารทั้งหมดเป็นสิทธิ์ของนาง C  ซึ่งตอนนี้นาย A ต้องการขายเอาเงินคืนอย่างเดียวไม่ต้องการกู้แต่นาง C ไม่ยอมท่าเดียว 

    2.    นาง C เข้าขั้นฉ้อโกงเอาทรัพย์สินของคนอื่นมาเป็นของตนใช่หรือไม่  โดยนาย B ควรจะมีความผิดด้วยหรือไม่ในฐานะที่โน้มน้าวให้โอนเป็นชื่อของภรรยาตนเองด้วยหรือไม่

    3.    เอกสารการโอนเงินเพื่อจ่ายเงินค่าหลักทรัพย์ของธนาคารจะมีผลมากน้อยเพียงใด

    4.    การบันทึกเทปที่แสดงว่านาย A จ่ายเงินค่าหลักทรัพย์ดังกล่าวจะเป็นหลักฐานที่สำคัญใช่หรือไม่ (ปัจจุบันยังไม่ได้บันทึก)

    5.    นาย A ควรไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจไว้ดีหรือไม่

    6.    หากโอนเป็นชื่อบริษัทซึ่งมีนาย B เป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ โอกาสที่นาย A จะได้รับเงินก็ยังไม่แน่นอน หากเปลี่ยนเป็นชื่อนาย A เป็นหุ้นส่วนใหญ่แทนนาย B จะกระทำได้หรือไม่  และถ้านาย B ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อเป็นนาย A ควรจะทำอย่างไร (กรณีที่นาง C ไม่ยอมขาย)

    7.    นาง C มีอารมณ์ฉุนเฉียวซึ่งมีอาการทางประสาทจากการป่วยเล็กๆ จะเป็นเหตุผลที่ทำให้นาย A ได้ใช้เป็นข้อมูลต่อรองได้หรือไม่

    8.    โอกาสที่นาย A จะได้เงินคืนเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด และหลักฐานสำคัญที่นาย A น่าจะใช้ได้ดีที่สุดมีอะไรบ้างคะ

    ดิฉันอยากเห็นความเป็นธรรมในสังคม ไม่ต้องการให้เสียภาพพจน์ประเทศชาติ ขอรบกวนให้ความกระจ่างเพื่อการเป็นแนวทางในการจัดการต่อไปด้วยคะ 

    ขอบพระคุณอาจารย์และทีมงานเป็นอย่างสูงคะ

    พลอยขวัญ

     

    คำตอบ

    1.  โอกาสคงยากเต็มที เว้นแต่จะมีหลักฐานอะไรเป็นหนังสือแสดงให้เห็นว่าในการซื้อนั้น นาย เอ เป็นคนออกเงินและมีข้อตกลงว่าให้นาง ซี ถือไว้แทนตน ควรปรึกษากับทนายความเพื่อนำหลักฐานเท่าท่ี่ทั้งหมดไปให้ทนายดู

    2. จะว่าเป็นการฉ้อโกง ก็คงไม่ถนัดนัก เพราะนางซี ก็ไม่ได้หลอกลวงอะไร  การที่จะให้เขาไปกู้เงินมาให้ทำธุรกิจ เขาก็คงต้องเกรงเหมือนกันว่าเมื่อเขาเป็นหนี้แล้วใครจะชำระให้เขา

    3. ถ้าผสมกับหลักฐานอื่น ๆ ก็น่าจะเป็นประโยชน์

    4. ถ้าปัจจุบันยังไม่ได้บันทึก ก็ต้องแปลว่าต้องไปขอให้เขาบันทึกใหม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ให้นางซี เขียนหนังสือให้ฉบับหนึ่งว่าที่ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินนี้เป็นการถือในฐานะตัวแทนของนายบี หรือนาย เอ

    5. จะไปบันทึกเรื่องอะไรล่ะ ก่อนทำอะไรควรปรึกษาทนายความเถอะ

    6. ถ้ากิจการนั้นเป็นบริษัท ก็อาจทำโดยวิธีเพิ่มทุน โดยให้นาย เอ ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นโดยตีราคาที่ดิน แล้วโอนที่ดินให้บริษัท แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่านางซี จะยอมหรือไม่

    7. จะต่อรองว่าอย่างไร ไม่เข้าใจ

    8. หลักฐานที่สำคัญ ก็คือ หลักฐานเป็นหนังสือที่แสดงว่านายบีและนางซียืมเงินจากนายเอ


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    20 เมษายน 2557