ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
    มุมของมีชัย
  • ความคิดเสรีของมีชัย
  • เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
  • เรื่องสั้น
  • จดหมายถึงนาย
  •  
     
    ความคิดเสรีของมีชัย

    ศักดิ์ศรีของประเทศไทย??

    มีรายงานข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ (มติชน – ฉบับลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๓) ความว่า “ขณะนี้บริษัทผู้ประกอบการน้ำมันที่มีบริษัทแม่อยู่ในสหรัฐอเมริการายหนึ่ง ได้ยื่นหนังสือถึงสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือ ในการเจรจากับรัฐบาลไทย กรณีที่รัฐบาลได้เข้ามาแทรกแซงราคาน้ำมัน ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกเสรี ส่งผลให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจ ลำบากและขาดทุน บริษัทเข้ามาลงทุนในไทย เป็นเวลากว่า ๑๐๐ ปี จึงต้องการความมั่นใจจากรัฐบาลไทยว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย”


    มูลเหตุของเรื่อง คงจะมาจากการที่ทางการ พยายามให้ปตท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของไทย พยายามตรึงราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อมิให้เป็นการซ้ำเติมประชาชน ในยามที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ ปตท.พยายามขายน้ำมันในราคาที่ถูกกว่า ที่บริษัทฝรั่งทั้งหลายขาย บริษัทฝรั่งจึงรู้สึกว่าเป็นการแทรกแซง จึงนำเรื่องไปฟ้องสถานทูต เพื่อจะได้มาต่อว่ารัฐบาลไทย แม้ว่าตามข่าว จะใช้ถ้อยคำไม่แรงนักว่า “จึงต้องการความมั่นใจจากรัฐบาลไทยว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย” แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือ ให้มาคาดคั้นว่า จะไม่ทำอย่างนี้อีก


    คนไทยทั้งหลายที่ยังมีความเป็น “คนไทย” เหลืออยู่ อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง??


    น่าตระหนกกันบ้างไหมว่า ฝรั่งที่เข้ามาหากินในเมืองไทย มองประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นถึงขนาดนี้??


    ยามที่ฝรั่งจะแย่งส่วนแบ่งการตลาด จะใช้เงินทุนที่เหนือกว่า ลดราคาลงมาเท่าไร ฝรั่งไม่เคยรู้สึกว่านั่นเป็นการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม กลไกมิได้เสรีจริง บางครั้งบางคราว ก็ทั้งแจก ทั้งแถม บริษัทไทยก็ต้องกัดฟันทำตาม แม้ว่าจะขาดทุนก็ต้องยอม


    ยามที่น้ำมันราคาขึ้น บริษัทไทยตรึงราคา ไม่ขึ้นราคาเต็มตามที่ฝรั่งอยากจะขึ้น ทางราชการไทย ไม่เคยไปบีบบังคับให้บริษัทฝรั่ง ต้องตรึงราคาตามบริษัทไทย ซ้ำร้ายกว่านั้น เมื่อปรากฏว่า ตนได้รับกำไรไม่มากเท่าที่เคยได้ กลับชะลอการส่งน้ำมันไปให้ปั๊ม เพื่อขายให้น้อยลง จะได้ประหยัดทุนรอนในการสั่งน้ำมันดิบเข้ามา โดยปล่อยให้ปั๊มของคนไทย แบกรับภาระอยู่คนเดียว ฝรั่งไม่ยักนึกว่านั้นมิใช่เป็นกลไกเสรี หากแต่เป็นกลไกแห่งการเอารัดเอาเปรียบ โดยไม่มีมนุษยธรรม ไม่มีความผูกพันกับแผ่นดิน ที่ตนใช้ทำมาหากินเป็นเวลาถึง ๑๐๐ ปี


    คนอย่างนี้จะคบกันได้หรือ?


    ที่ฝรั่งเรียกร้องในทุกเรื่องราว ให้มีการค้าเสรี มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม นั้น มิได้แปลว่า ฝรั่งต้องการให้มีการค้าเสรีอย่างเป็นธรรมจริง ๆ หรอก น้ำมันดิบที่ขึ้นราคาอย่างไม่หยุด ล้วนแต่เกิดจากการจัดการ และการตกลงกัน บังคับให้ประเทศผู้ผลิตทั้งหลาย ผลิตตามที่กำหนด เพื่อให้น้ำมันขาดตลาด ราคาจะได้สูงขึ้น


    อย่างนี้เรียกว่าการค้าเสรี กลไกเสรี อย่างนั้นหรือ?


    ประเทศที่กำลังพัฒนา ผลิตสินค้าได้ถูกกว่า ส่งของเข้าไปขายในประเทศต่าง ๆ เขาก็พยายามหาเหตุ เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้ส่งเข้าไป ไม่ว่าด้วยระบบโควต้า สิทธิมนุษยชน หรือสิ่งแวดล้อม เพื่อจะบีบบังคับให้มีต้นทุนสูงขึ้น หรือมิฉะนั้นก็ใช้เป็นเหตุ ที่จะลดราคาสินค้าลง ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านั้น ส่งเครื่องจักรที่ก่อให้เกิดมลพิษบ้าง สารเคมีที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหายบ้าง เข้ามาขายได้อย่างหน้าตาเฉย


    อย่างนี้เรียกว่าการค้าเสรี กลไกเสรี อย่างนั้นหรือ?


    คนไทยคงจะต้องพักการทะเลาะเบาะแว้งในทางการเมือง หรือในทางความคิดลงไว้ชั่วคราว แล้วหันมาคิดถึงความเป็น “ไท” ของคนไทยและประเทศไทยกันบ้าง


    จะปล่อยให้รัฐบาลไทย ตกเป็นเบี้ยล่างเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จะกระดิกกระเดี้ยแม้แต่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ก็ไม่ได้เช่นนั้นหรือ?


    แม้เราจะทำอะไรมากนักไม่ได้ แต่ถ้าได้ร่วมใจกัน หยุดเติมน้ำมันจากปั๊มน้ำมัน ที่เป็นของฝรั่งต่างชาติเสียสักระยะหนึ่ง เพื่อบอกให้รู้ว่า คนไทยเจ็บร้อนต่อการบีบคั้นเช่นนั้น เพียงเท่านี้ ก็จะเท่ากับได้รักษาความเป็น “ไท” เอาไว้ให้ลูกหลานเราได้


    ทุกครั้งที่แวะเข้าเติมน้ำมันกับปั๊มน้ำมันที่เป็นของต่างชาติ ขอให้รู้สึกสักนิดว่า เรากำลังส่งเสริมชาวต่างชาต ิให้มาเหยียบย่ำคนไทย และประเทศไทย


    เรากำลังช่วยสนับสนุนให้ฝรั่งต่างชาต ิเกิดความผยองว่า จะทำอย่างไรกับคนไทยก็ได้ เพราะพวกนี้ พร้อมที่จะเป็นทาสอยู่แล้ว


    เมื่อเจอหน้าเพื่อนฝูงหรือแม้แต่คนรู้จัก ช่วยกันถามว่า “คุณหยุดเติมน้ำมันจากปั๊มน้ำมัน ของบริษัทต่างชาติหรือยัง” “คุณยังสนับสนุนให้ฝรั่ง มาเหยียบย่ำคนไทย และประเทศไทยอยู่อีกหรือ”


    ถ้าจำเป็นจริง ๆ น้ำมันหมดแล้ว ยังหาปั๊มน้ำมันของ ปตท.หรือบางจากไม่ได้ ก็เติมสักลิตรหรือสองลิตร เพียงเพื่อจะได้ขับต่อไปได้


    ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มิได้ทำให้คนไทยเกิดความรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ หรือถึงเดือดเนื้อร้อนใจก็คร้านที่จะทำอะไร ก็จะได้รู้กันว่าผู้คนได้เปลี่ยนไป ไม่เหลืออะไรแม้แต่ความเป็น “ไทย”

    มีชัย ฤชุพันธุ์